ผู้หญิงบ้านห้วยลึกกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแม่น้ำโขง
การสร้างเขื่อน ในแม่น้ำโขงเพื่อการสร้างพลังงานไฟฟ้า และการพัฒนาแม่น้ำโขง ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน กว่า 10 แห่ง ทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ อาชีพของคนลุ่มแม่น้ำโขงหลายล้านชีวิต ทำให้หลายครอบครัวต้องอพยพย้ายถิ่นฐานทิ้งบ้านเกิดเพื่อไปหางานทำในเมือง การสร้างเขื่อนเพื่อพลังงานไฟฟ้า มีงานวิจัยหลายชื้นที่ชี้ว่าไม่มีความจำเป็นและก่อให้เกิดการทำลายระบบนิเวศ แต่ก็ยังคงมีนายทุนที่ต้องการเงินมหาศาล โดยไม่สนความเดือดร้อนของคนลุ่มแม่น้ำโขง เช่นเดียวกันกับโครงการก่อสร้างเขื่อนปากแบงที่กำลังจะเกิดขึ้น ในมุมมองของแม่ญิง ลุ่มแม่น้ำโขงที่ได้เห็นและประสบมากับตนเอง ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเช่นกัน
นางภู่ ศรีนาวา กล่าวว่า ถ้าเขื่อน สูงประมาณ 340 เมตร เหมือนที่เค้าว่ากัน คือว่าบ้านห้วยลึกตามริมแม่นเป็นแอ่งน้ำแน่นอน แม่ก็โตมากับแม่น้ำโขง เมื่อก่อนปลูกข้าวโพด ปลูกผัก ริมแม่น้ำโขงเพื่อกินในครอบครัว เหลือก็เอาไปขาย ถ้าเป็นแบบทุกวันนี้ก็แย่ลงเรื่อยๆ ข้าวโพดที่นี่ปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง ถ้าน้ำไม่ท่วมก็ดีไป สามารถเก็บไปขายได้ ปีหนึ่งได้ประมาณ 20,000 บาท หลังจากนี้ถ้ามีเขื่อนปากแบงก็คงจะไม่ได้ทำอะไรกินแล้ว สวนส้มโอก็ไม่แน่นอน บางปีก็ได้มาก บางปีก็ได้น้อย ไม่พอกิน ต่อไปคงจะไม่ทำแล้วเพราะลงทุนไปน้ำก็ท่วมคงต้องทำใจ
การทำประมงพื้นบ้านในลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นการทำประมงขนาดเล็กที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เหลือก็นำไปขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ปัจจุบันเพียงแค่จะหากินเพื่อประทังความหิวยังเป็นเรื่องที่ยาก
นางสุธรรม ศรีนะวงศ์ กล่าวว่า เมื่อก่อนหาปลาได้มากพอกินเหลือกินก็เอาไปขายแต่เดี่ยวนี้จะกินก็ยังไม่พอกิน ชาวประมงต้องเลี้ยงปลากินเอง เพราะหาไม่ได้แล้ว ทุกวันนี้ก็เลี้ยงปลาในบ่อ เช่นปลาดุก ปลากด ปลาช่อน กบ สมัยก่อนการหาปลาดีมากแม่บ้านทำเครื่องปรุง เครื่องเคียงไว้รอ พ่อบ้านออกไปหาปลา มีแขกหรือมีงานที่บ้าน แค่ลงน้ำไปหาปลาไม่ถึงชั่วโมงก็ได้ปลามากินมาเลี้ยงแขกแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการสร้างเขื่อน กระทบต่อการใช้ชีวิตในหมู่แม่ญิง ลุ่มแม่น้ำโขง หลายรายต้องออกจากบ้านไปทำงานก่อสร้างที่ไม่เคยทำมาก่อน ต้องจากพ่อแม่ไปหางานทำต่างจังหวัด
น.ส.จรรยา จันทร์ทิพย์ กล่าวว่า เมื่อก่อนพื้นที่ทำการเกษตร อุดมสมบูรณ์มาก ตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนในจีนก็ได้รับผลกระทบขึ้นมาเรื่อยๆ เกษตรชายฝั่งที่ปลูกผักกินเองในครั้วเรือน ก็ไม่มีแล้วหายไปกับสายน้ำที่ขึ้นๆ ลงๆ จากการสร้างเขื่อน ช่วงหลังมากปลูกผักก็ไม่ได้ผลผลิต พอจะได้รับผลผลิตน้ำก็มา ผักก็เสียหาย ถ้าถามว่าได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากแบงจริงๆ ก็ต้องรับผลที่เกิดขึ้นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพราะเราห้ามไม่ได้แล้ว ต้องหาที่อื่น หรือหางานทำอื่นนอกจากการทำการเกษตร แต่เราอาจจะไม่ย้ายถิ่นที่อยู่ เพียงแต่ย้ายขยับจากจุดที่น้ำท่วมขึ้นไปจุดที่สูงขึ้น จากที่ปลูกผัก เป็นสวนริมแม่น้ำโขง หากเราได้รับผลกระทบจริง ก็คงจะต้องหางานอื่นทำ อย่างก่อสร้าง งานต่างจังหวัด อาจจะต้องเปลี่ยนไปตามปัญหาที่เราได้รับผลกระทบ