ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 2 นายก อบต.สุโขทัย เรียกรับเงินเข้างาน

รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าว โดยนายศรชัย  ชูวิเชียร  ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวชี้มูลข้อกล่าวหานายวิชัย ชิตยวงษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่สุขเกษม  อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย และนายวิเชียร สุทธิวิลัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโตนด อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เรียกรับเงิน จำนวน 600,000 บาท โดยอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้สอบบรรจุ     เข้าเป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลโตนด ประจำปี 2558

โดยผลการชี้มูลนั้นปรากฏว่าทั้งนายวิชัยและนายวิเชียรมีความผิด
โดยรายละเอียดคดีปรากฎว่าเมื่อปี พ.ศ. 2558 นายวิชัย ชิตยวงษ์ และนายวิเชียร สุทธิวิลัย  ได้ร่วมกันเรียกรับเงินจากบิดาของผู้ที่ประสงค์จะสอบบรรจุเข้ารับราชการรายหนึ่ง โดยแจ้งว่าองค์การบริหารส่วนตำบล  ในจังหวัดสุโขทัย จะเปิดรับสมัครสอบพนักงานส่วนตำบล และอ้างว่าสามารถช่วยเหลือบุตรให้สามารถสอบเข้า เป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลโตนดได้ โดยหากต้องการให้บุตรบรรจุเป็นข้าราชการตำแหน่งนิติกรระดับ 3 ในลำดับที่ 1 ต้องชำระเงินจำนวน 600,000 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้ง   ในการช่วยเหลือให้สอบได้ จนกระทั่งบิดาของผู้ประสงค์จะสอบบรรจุเข้ารับราชการหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของนายวิชัย ชิตยวงษ์ จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 600,000 บาท

ต่อมาหลังจากที่องค์การบริหารส่วนตำบลโตนดได้ประกาศเปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ     เข้าเป็นพนักงานส่วนตำบล ประจำปี 2558 ตามประกาศลงวันที่ 21 กันยายน 2558 แล้ว ปรากฏว่า คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) จังหวัดสุโขทัย ไม่สามารถจัดจ้างสถาบันการศึกษามาดำเนินการออกข้อสอบได้ จนกระทั่งมีประกาศ คสช. ที่ 8/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นผลให้การสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นหน้าที่ของ ก.อบต. ดำเนินการ ก.อบต. จังหวัดสุโขทัย และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จึงได้มีหนังสือแจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลโตนดยกเลิกการสอบแข่งขัน และองค์การบริหารส่วนตำบลโตนดได้ประกาศยกเลิกการสอบแข่งขันและคืนเงินแก่ผู้สมัครสอบ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้

1.การกระทำของนายวิชัย ชิตยวงษ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และมาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

2.การกระทำของนายวิเชียร สุทธิวิลัย มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และมาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งสำนวนการไต่สวน และเอกสารหลักฐาน