พิษณุโลก รวบคนร้ายไทย-ลาว โจรกรรมอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาณ TRUE เหนือตอนล่าง 36 เครื่อง

สืบเนื่องจากในช่วงดือนเมษายน – พฤษภาคม 2568ได้มีคนร้ายก่อเหตุโจรกรรมอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาณ ( baseband) ที่ควบคุบคุมเสาให้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรขัน ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก เกิดความเสียหายมูลค่าหลายล้านบาท และทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้หายไป

ตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ต.กิติศักดิ์ คุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผบช ภ.6 พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบช.ภ 6 พล.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบข.ภ.6 จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พ.ต่.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ รอง ผบก.ก.จว. พิษณุโลก, พ.ต.อ.จาตุรนต์ บุษปะเทศ รอง ผบก.ภ.จว. พิษณุโลก, พ.อ.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.อ.พิเซฐพงศ์ ธนาบูรณไป กาศเกษม รอง ผกก.สถ.เมืองพิษณุโลก , พ.ต.ท.ธวัชชัย คงมั่น รอง ผกก. สภ.พรหมพิราม, พ.ต.ท.พัชรพงศ์ ผู้ภักดี รอง ผกก รรมเจมพิษณุโลก, พ.ต.ต.ทรงวุฒิ รั้งท้วม สว สส.สภ. พรหมพิราม, ว่าที่ พ.ต.ต.ปิยวัฒน์ รู้คุณ สส.สภ.เมืองพิษณุโลก ทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ. พรหมพิราม, สภ.เมืองพิษณุโลก และ กก.สส.ภ.จว. พิษณุโลก ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 1 สว.ทล.2 กก.8 บก.ทล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถ.สำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ร่วมจับกุม 1. MRYOUN BAYTHAVONG (วัน ใบทะวงศ์) อายุ 26 ปี สัญชาติ ลาว MR. SONCHAY SENGMALA อายุ beb: VIายแลtPassport Pebebabsamite สัญชาติ ลาว อายุ 32 ปี 3.นายธมพงษ์ พิมพ์ทวด อายุ 32 ปี ที่อยู่ 66 ม.4 ต บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยโดยใช้ยาหนะ”หรือรับของโจร” พร้อมด้วยของกลางครื่องส่งสัญญาณ (Baseband) จำนวน 36 เครื่อง ลวดทองแดงน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม และ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรึโว สีขาว หมายมายเบียน 3 ฒก 7505 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พรหมพิราม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 30 เมย.68 ถึงวันที่ 5 พ.ค.2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถ.เมืองพิษณุโลก แลสภ.พรหมพิราม ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ได้ลักพรัพย์เป็นอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาณ ( basesetsand ) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณสถานี ส่งสัญญาณของบริษัท ทรู ในพื้นที่ อเมืองพิษณุโลก และ อ.พรหมพิราม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้มีการประชุมวางแผมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุตลอดจนเส้นทางบริเวณใกล้เคียง

พบว่า ช่วงวลาที่เกิดเหตุ มีรถยนต์ต้องลงสงสัยป็นรถยนต์กระบะบะแคป ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมาแลพทะเบียน 3 ฒก-7505 กทม. ขับขี่เข้ามายังบริเวณที่เกิดเหตุในช่วงเวลาเดียวกับที่สัญญาณชัดข้อง จึงได้สืบสวมติดตามเรือยมา จนกระทั่งวันที่ 11 พ.ค.68 ได้รับแจ้งจากเจ้าที่
ผู้ดูแลลถานีส่งสัญญาณว่าได้มีคนร้ายก่อเหตุลักพรัพย์อุปกรณ์กรณ์ครื่องส่งสัญญาณ( baseband ) ที่สถานีส่งสัญญาณในพื้นพื้นที่ อ.พรรมพิราม และพื้นที่จ.สุโขทัย และพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณใกล้เคืองที่เกิดเหตุดังกล่าวน่าเชื่อว่าเป็นคันคืนเดีนกับที่เคยก่อเหตุมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตาม รถยนต์ต้องสงสัย ตามเส้นทางมุ่งหน้าไป กหม.และได้ประสาน สทล.บก.ทล., สืบสวม ภาค 1 จนมาถึงบ้านเลขที่ 95/446 หมู่บ้านหมอนทอง ขอย 15 คลอง 8 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถ.ลำลูกกา เข้าร่ามทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ ผู้ต้องหาทั้ง 38 คน ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพร้อมด้วยของกลางเครื่องส่งส่งสัญญาณ baseband จ้านวนมาก
และได้ประสานเจ้าหน้าที่ทรู มาเพื่อตรวจสอบเครื่องส่งสัญญาณ Baseband ดังกล่าว พบว่าเสขประจำเครื่องตรงกับเครื่องที่ถูกโจรกรรมในที่ อ.พรหมพิราม และพื้นที่ จ.โขทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว ส่งหน้างานสอบสวน สภ.พรรมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพว่าวันที่ 11 พ.ค.68 ได้ตระเวนลักเครื่องส่งสัญญาญ ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม และใบพื้นที่ จ.สุโขทัย จากนั้นได้หลบหนีพรือมด้วยของกลาง มายังบ้านของผู้ต้องหาที่ 3 เพื่อนำทรัพย์สินที่ลักมายให้กับ ผู้ต้องหาที่ 3 เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พ.ค.68 ที่ผ่านมาเคยนำเครื่องส่งสัญญาณดังกล่าวมาขายให้ ผู้ต้องหาที่ 3 มาก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชนทราบ และช่วยกันเป็นป็นหูเป็นตาระวังป้องกันภัย หากพบเห็นการกระทำความผิด ในพื้นที่ใกล้
บ้านของท่านสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ
ทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 6 จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กาที่กระทำความผิด โดยใช้มาตราการลงโทษทางหมายในฐานควานผิดขั้นสูนสูงสุด เพื่อเป็นแบบอย่างมีให้การกระกระทำควาแผิด และจำเป็นการจับกุมการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนสืบไป
