ชาวแพรกษาเฮ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนให้ชนะคดีบ่อขยะ
ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางให้ “ชาวแพรกษา” สมุทรปราการ 163 คน ชนะคดีฟ้อง “ผู้ว่าฯ – นายก อบต.แพรกษา” ละเลยหน้าที่ ปล่อยเอกชนเช่าที่ทำบ่อขยะส่งกลิ่นเหม็นไฟไหม้ซ้ำซ้อนสร้างมลพิษ
วันที่ 13 ธ.ค.67 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาคดีที่สมาคมฯร่วมกับชาวแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากบ่อขๅยะแพรกษา จำนวน 163 คน ยื่นฟ้อง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา , ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการกับพวกรวม 11 คน ในคคีหมายเลขดำที่ ส. 11 และ ส. 16/2557 หลังละเลยต่อหน้าที่ปล่อยให้เอกชนนำขยะมาทิ้งกองเป็นภูเขา เป็นเหตุให้เิดไฟไหม้กลิ่นเหม็นอบอวลชาวบ้านเดือดร้อนกันไปทั่วจึงได้นำความไปฟ้องต่อศาล
ต่อมาเมื่อ 30 พ.ย.59 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษาใช้อานาจตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ควบคุมดูแลมิให้มีการกระทำใดๆอันก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ของมูลฝอยอันเป็นเหตุรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงบ่อขยะแพรกษาและให้ดำเนินการ จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา ตาม มาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 รวมทั้งให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการกำกับดูแลให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษาปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโดยเคร่งครัด แต่ทว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้อุทธรณ์ต่อศาล
กระทั่งบัดนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวละเลยต่อหน้าที่จริง จึงสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษาใช้อำนาจตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ควบคุมดูแลมิให้มีการกระทำใดๆอันก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ของมูลฝอยอันเป็นเหตุรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงบ่อขยะแพรกษา และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการกำกับดูแลให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษาปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโดยเคร่งครัด
คดีนี้ต่อสู้กันมานับ 10 ปี บัดนี้เมื่อศาลสูงพิพากษายืนถือว่าถึงที่สุดแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนที่จะต้องขอให้ศาลเร่งบังคับคดีเพื่อยุติกลิ่นเหม็นดังกล่าวอย่างถาวร และจะนำความไปร้องให้ ป.ป.ช.สอบเอาผิดบุคคลดังกล่าวตามคำพิพากษาของศาลต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด