ไทใหญ่ เผยโรงงานผลิตยานรกอยู่ในท่าขี้เหล็ก ยึดทั้งปีมูลค่า180 ล้าน แนวโน้มปลูกฝิ่นเพิ่ม โวยยึดอำนาจทำแก้ผิดทาง
วันที่ 26 มิ.ย.67 กรณีกองกำลังภาคพื้นที่ 1 กองทัพรัฐฉาน (SSA) สภากอบกู้รัฐฉาน (RCSS) นำโดย พ.อ.คำก้อนจื้น ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นที่ 1 SSA ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลกประจำปี 2567 โดยมีการเดินขบวน กล่าวสุนทรพจน์ และเผาทำลายยาเสพติดที่ยึดได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2566-มิ.ย.2567 นี้เป็นยาบ้า 5,393,600 เม็ด เฮโรอีน 1 กิโลกรัม ยาไอซ์ 105 กิโลกรัม คาเฟอีน 51 กิโลกรัม น้ำยาผลิตยาเสพติด 20 ลิตร ผงสีสำหรับผลิตยาเสพติด 10 กิโลกรัม ซึ่งจับผู้กระทำผิด คนลำเลียงยาเสพติด13 คน พร้อมคนงานโรงงานผลิตยาเสพติด 15 คน ณ ฐานดอยก่อวันติดกับ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ของไทยนั้น
ล่าสุดได้มีการประเมินมูลค่ายาเสพติดทั้งหมดที่เผาทำลายว่ามีมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินสกุลบาทของไทยประมาณ 180 ล้านบาท โดยทาง SSA ระบุว่ายาเสพติดทั้งหมดถูกยึดจากผู้ค้ายาในระหว่างการลาดตระเวนของทหาร SSA รวมถึงเป็นการบุกเข้าทลายโรงงานผลิตยาเสพติดในพื้นที่ทางตอนเหนือของดอยผาแดง ต.ห้วยกาด อ.ท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อเดือน ก.พ.2567 ที่ผ่านมาด้วย
พ.อ.คำก้อนจื้น กล่าวว่า การเผายาเสพติดเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของเรา แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับปัญหานี้โดยเราจำเป็นต้องจัดการกับสาเหตุรากฐานเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เพราะมันได้ฝังรากลึกถึงระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งถูกทำให้แย่ลงกว่าเดิมเพราะความไม่มั่นคงทางการเมืองหลังการยึดอำนาจ ดังนั้นการเผายาเสพติดอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นทางได้ ตราบใดที่ยังม่ความความยากจนและความไม่มั่นคงทางการเมือง เมื่อไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องก็ผลักดันให้เยาวชนเข้าถึงยาเสพติดได้ในที่สุด วิธีแก้ปัญหาคือต้องให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง สร้างอนาคตที่ปลอดภัยและสร้างมั่นคงให้แก่ประชาชนในรัฐฉานและผู้คนในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด
รายงานจาก SSA ระบุว่ารัฐฉานโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐฉานตะวันออกเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหายาเสพติดมาอย่างช้านาน โดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) ระบุว่าในปี 2023 ที่ผ่านมาพื้นที่นี้มีการปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 17% ทำให้ระบบเศรษฐกิจผิดกฎหมายเติบโต เกิดความรุนแรง ความไม่มั่นคงและมีผลกระทบถึงประชาชนในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง.