ม.นเรศวร คิดค้น “สารกำจัดวัชพืชชีวภาพ”จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรโดยแบคทีเรีย
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/20231114104900_IMG_3290.jpg)
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/20231114105307_IMG_3296.jpg)
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ที่คณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย ดร.ณิชากร คอนดี อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร คิดค้น “สารกำจัดวัชพืชชีวภาพ (bioherbicide)” จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรโดยแบคทีเรีย ปลอดสารพิษ ลดการตกค้าง มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักสากล SDGs พร้อมต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ทีมนักวิจัยได้ทำงานร่วมกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตร มาตั้งแต่ปี 2561
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/20231114104926_IMG_3293.jpg)
เพื่อพัฒนาการนำวัสดุเหลือทิ้งทางเกษตรและผลพลอยได้จากการแปรรูปผลผลิตทางเกษตร เช่น กากสับปะรด กากถั่วเหลือง เปลือกทุเรียน กากมะพร้าว กากบีบน้ำมันมะพร้าว กากบีบน้ำมันรำข้าว เป็นต้น มาใช้เป็นแหล่งอาหารและพลังงานให้กับแบคทีเรียผลิตสารลดแรงตึงผิวชีวภาพ
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/20231114104917_IMG_3292.jpg)
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืนตาม SDGs รวมทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero greenhouse gas emissions) โดยการลดปริมาณของเสียอันตรายและวัสดุเหลือทิ้งที่ถูกส่งไปเผากำจัดหรือฝังกลบ พร้อมกับส่งเสริมการผลิตสารลดแรงตึงผิวชีวภาพมาใช้แทนที่สารเคมีที่อันตราย คือ “สารกำจัดวัชพืชชีวภาพ (bioherbicide)” ที่มีความปลอดภัยทั้งต่อทั้งผู้ใช้งานและผู้บริโภค และย่อยสลายได้ในสิ่งแวดล้อม ส่วนผสมหลักที่ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์สารกำจัดวัชพืชชีวภาพจะได้จากกระบวนการหมักวัสดุเหลือทิ้งทางเกษตรและผลพลอยได้จากการแปรรูปผลผลิตทางเกษตรร่วมกับแบคทีเรีย ซึ่งมีปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/20231114113407_IMG_3306.jpg)
โดยสามารถพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชได้เทียบเท่าสารกำจัดวัชพืชเคมีในตลาด ผลิตภัณฑ์สารกำจัดวัชพืชชีวภาพจะอยู่ในรูปสารละลายของไมโครอิมัลชันที่มีสารสำคัญต่าง ๆ จะถูกห่อหุ้มให้คงอยู่ในสารละลายได้ในระดับนาโนผลิตภัณฑ์สารกำจัดวัชพืชชีวภาพที่พัฒนาได้ จะช่วยลดมุมสัมผัสเมื่อหยดบนใบวัชพืชจึงแผ่บนใบวัชพืชได้ทั่วถึง ลดการกระดอนออกจากใบพืชหลังพ่นได้ ทำให้เกาะติดกับใบวัชพืชได้ดี และซึมผ่านเข้าสู่เนื้อเยื่อใบวัชพืชได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถออกฤทธิ์ในการกำจัดและลดการเจริญเติบโตของวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำงานภายใต้สภาวะที่วิกฤติของพีเอช อุณหภูมิ และความเค็มสูงได้
เนื่องจากแบคทีเรียมีความหลากหลายสายพันธุ์มากทำให้ได้สารลดแรงตึงผิวชีวภาพที่มีคุณสมบัติเด่นที่หลากหลาย การเพาะเลี้ยงแบคทีเรียเพื่อผลิตสารลดแรงตึงผิวชีวภาพยังใช้เวลาในการผลิตน้อยกว่าจุลินทรีย์ชนิดอื่นเพราะแบคทีเรียมีอัตราการเจริญสูง และแบคทีเรียสามารถเจริญในอาหารที่หลากหลายสามารถใช้ของเสียจากการเกษตรกรรมเองและผลพลอยได้จากการแปรรูปผลผลิตทางเกษตรที่มีต้นทุนต่ำมาเป็นแหล่งสารตั้งต้นของการหมักเพื่อผลิตสารลดแรงตึงผิวชีวภาพจากแบคทีเรียได้ สารลดแรงตึงผิวในสารจับใบที่ขายในท้องตลาดส่วนใหญ่อาจสังเคราะห์จากปิโตรเลียมหรือสกัดด้วยวิธีทางเคมีจากพืช มีความเสี่ยงจากความเป็นพิษและการตกค้างได้ รวมทั้งถือว่าไม่เป็นทำการทำเกษตรอินทรีย์อย่างสมบูรณ์
สารกำจัดวัชพืชชีวภาพ พร้อมต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา 0 5596 8727
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/1699943929695.jpg)
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/1699943945270.jpg)
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/1699943939333.jpg)
![](https://storage.googleapis.com/kmk_web_storage/northernnewsthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/1699943941123.jpg)