พิษณุโลก ยึดไม้เถื่อน 57 ท่อน แบคโฮกวาด-โค่นล้มทั้งรากกระจายเกลื่อน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสวนเมี่ยง

ผู้ใหญ่บ้านนำชี้ คาดลูกบ้านแสบ ! หวังเพิ่มที่ดินทำกิน จำนนต่อหลักฐาน เหตุนำไม้เถื่อนมาปักเสารั้วข้างๆแปลงทำกิน ต.ท่าสะแก อ.ชาติตระการ

วันที่ 26 ธ.ค.68   นายธีรพล  กาญจนโกมล   หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก 2 รับแจ้งมีผู้ลักลอบใช้รถแบ็คโฮ ขุดโค่นต้นไม้ โดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตัดทอน จึงประสานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.4 (ป่าแดง-แก่งบัวคำ) ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิษณุโลก 1 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 3 (ตาก) สปป.3 (ภาคเหนือ) , หน่วยพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าวังทอง, สายตรวจปราบปรามประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ตำรวจป่าไม้ กก.4 บก.ปทส. ตชด.315, ฝ่ายปกครอง, ผู้ใหญ่บ้านน้อย หมู่ที่ 3 ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ วานนี้ 25 ธ.ค.68  พบไม้โค่นล้มกระจัดกระจาย ด้วยเครื่องจักรใหญ่-แบคโฮ ล้มทั้งราก ถูกตัดทอนเป็นท่อนด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ประมาณ 2 สัปดาห์ผ่านมา เหตุไม้เหี่ยวแห้ง ทิศตะวันตก พบแปลงที่ดินมีร่องรอยการทำเกษตรกรรม และพบรั้วล้อมด้วยลวดหนามมีร่องรอยการทำเกษตรกรรม อาจเป็นเจ้าของบุคคลเดียวกัน เป็นการบุกรุกป่าเพิ่มเติม และยังนำไม้จากแปลงบุกรุกมาซ่อมแซมทำเสารั้วอีก แต่ขณะเข้าจับกุมไม่พบบุคคลใดให้ปากคำ  พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสวนเมี่ยง

นางบุญมี  เสนานุช ผู้ใหญ่บ้านน้อย หมู่ที่ 3 ตำบลท่าสะแก ชี้แจงว่า พื้นที่ทำการเกษตรกรรม ติดกับแปลงบุกรุก (ไม้ล้มเกลื่อน ) มีนางทองดี (สงวนนามสกุล) หมู่ที่ 3 ตำบลท่าสะแก ครอบครองทำกินอยู่

ต่อมาเจ้าหน้าที่จับค่าพิกัดรอบแปลง 5-2-33 ไร่พบไม้ประดู่, ไม้เต็ง, ไม้รกฟ้า ไม่เป็นชนิดไม้ที่โดยปกติวิสัยของบุคคลทั่วไป จะนิยมปลูก และตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ พบว่า เป็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ ยืนยัน  ไม้ที่โค่นล้มเป็นต้นไม้ธรรมชาติ ไม่ใช่ไม้ที่ปลูกขึ้นโดยมนุษย์  ยึดไม้ทั้งหมด 57 ท่อน ปริมาตร 28.372 ลูกบาศก์เมตร ตีตรายึด ต. 10587 ย. 851 ประทับหน้าไม้ท่อน

ทำบันทึกแจ้ง ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11  ฐาน “ทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69 วรรคสอง ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่ได้รับอนุญาต พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ทำไม้ อันเป็นการเสื่อมเสีย แก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต  มาตรา 26/4 ผู้ใดทำลาย ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย  นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรชาติตระการเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป