ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


ดำเนินโครงการ “บ้านสร้างสุข ซี.ซี.เอฟ.”  สร้างและซ่อมแซมบ้าน 50 หลัง ให้กับเด็กและครอบครัวขาดแคลนและใช้ชีวิตอย่างยากลำบากทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กทุกคนได้เติบโตในบ้านที่ปลอดภัยและครอบครัวได้มีชีวิตที่ดีขึ้น รวมมูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท  ครอบคลุมพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ ตาก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ขอนแก่น อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม บึงกาฬ สระแก้ว สิงห์บุรี ฉะเชิงเทรา และนราธิวาส
แม้  “บ้าน” เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนควรมีอย่างเหมาะสม อบอุ่น ปลอดภัย แต่ยังมีเด็กจำนวนไม่น้อยต้องทนทุกข์อาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าทรุดโทรม หลังคารั่ว ฝาบ้านผุพังต้องใช้ผ้าห่มเก่ากั้นลมแทนประตู เด็กและผู้สูงอายุต้องขดตัวนอน ท่ามกลางพายุฝน น้ำท่วมหรือลมหนาว ที่มาเยือนซ้ำแล้วซ้ำอีก

ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2566–2568) ประเทศไทยเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงต่อเนื่อง ทั้งน้ำท่วมพายุและดินถล่มในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือถึงภาคใต้  เช่น เชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ นราธิวาสและอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ  สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน ของใช้จำเป็น และพื้นที่เกษตรของผู้ประสบภัยพิบัติ หลายครอบครัวต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่จากศูนย์ เด็กจำนวนไม่น้อยต้องในบ้านไร้หลังคา พื้นดินชื้นแฉะ ไม่ถูกสุขลักษณะและเหมาะสมสำหรับเด็ก

โครงการ “บ้านสร้างสุข ซี.ซี.เอฟ.” จึงไม่เพียงสร้างบ้าน แต่ยังช่วยสร้าง “ความสุข” คืนรอยยิ้มให้เด็ก ๆ ได้มี “บ้าน” ที่มีความมั่นคงและแข็งแรง ช่วยให้เด็กเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ พ่อและแม่ของเด็กมีแรงใจจะก้าวต่อ ผู้สูงอายุในครอบครัวได้พักอาศัยในบ้านที่ปลอดภัย เช่นเดียวกับ“น้องกัณฑ์อเนก” อายุ 9 ปี จ.แพร่  อาศัยอยู่กับพ่อ เพียงลำพังในบ้านเก่าทรุดโทรม ฝาและพื้นทำจากไม้เก่าผุพัง หลังคามุงสังกะสี ไม่สามารถป้องกันแดดฝนได้ ภายในบ้านไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำสวน รายได้ไม่แน่นอน ทำให้น้องขาดโอกาสและความมั่นคงในชีวิตประจำวัน

“น้องนันทิดา” อายุ 11 ปี จ.แพร่   เติบโตในครอบครัวที่ขาดความพร้อม  หลังพ่อแม่แยกทางกัน น้องอาศัยอยู่กับแม่และพี่ชายในบ้านไม้เก่า ๆ หลังเล็ก ที่ทรุดโทรมและไม่มั่นคง หลังคาสังกะสีผุพัง ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ข้าวโพด  รายได้ปีละครั้ง  เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วแทบไม่เหลือเงินพอใช้   แม่และพี่ชายต้องออกไปรับจ้างรายวัน ได้รายได้เพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ มุ่งมั่นทำงานช่วยเหลือเด็ก เยาวชน ในพื้นที่ห่างไกลและยังขาดแคลนปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ภายใต้พันธกิจสำคัญของมูลนิธิฯ  คือการพัฒนาเด็กและเยาวชน ทั้งด้านการศึกษา โภชนาการ สุขภาพ สุขอนามัย ทักษะชีวิต ความมั่นคงและสิ่งแวดล้อม โครงการ ‘บ้านสร้างสุข ซี.ซี.เอฟ.’ จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่สะท้อนเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ ในการส่งต่อความช่วยเหลือเด็กให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะ ‘บ้าน’ ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย หากยังเป็นพื้นที่แห่งการเริ่มต้นชีวิตอย่างมีความสุขที่จะช่วยให้เด็กเติบโต แข็งแรงและพร้อมเรียนรู้เพื่อก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงต่อไป

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ขอเชิญชวนท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส เพื่อให้พวกเขาได้รับโอกาสทางการศึกษา ได้มีชีวิตที่ดี มีที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มั่นคง

You missed