ผึ้งแตกรัง!! สแกมเมอร์ชาวเคนย่า ใช้ตราประทับปลอม ตบตาเจ้าหน้าที่หวังเดินทางคืนถิ่น หลังกวาดล้างหนัก ถูกจับคาสนามบินแม่สอด

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ชินกร อัศวภูมิ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ในขณะวางกำลังตรวจตราเข้มงวดกับ ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าและออก เมืองแม่สอด ได้มีชาวเคนย่าเดินทางเข้ามายังสนามบินนานาชาติแม่สอด ต้องการเดินทางไปยังกรุงเทพมหานครแล้วนั่งเครื่องบินไปยังประเทศเคนย่า

แต่พอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจหนังสือเดินทางโดยละเอียดกลับพบความผิดปกติของตราประทับบนหนังสือเดินทางของนายมูวี่ แม็กเวล มูติโซ่ (MBUVI MAXWELL MUTISO) สัญชาติเคนย่า อายุ 34 ปี เลขหนังสือเดินทาง AK1476489 เป็นตราประทับปลอมจึงเช็คอย่างละเอียด ไม่ปรากฎข้อมูลการตรวจลงตราก่อนเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีความผิดข้อหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ใช้รอยตราประทับเจ้าพนักงานปลอม เป็นรอยตราด่าน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุไหง โก-ลกและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส ปลอม โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายมูวี่ แม็กเวล มูติโซ่ ผู้ต้องหาชาวเคนย่า สแกมเมอร์ที่แอบหลบหนีเข้าเมืองหลังจากเคเคปาร์คแตกรัง ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองต้องการเดินทางมาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินแม่สอดไปยังกรุงเทพมหานคร แต่พอมาถึงยังจุดคัดกรองภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินแม่สอดกลับพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงตัวขออนุญาตทำการตรวจสอบข้อมูลบุคคลและหนังสือเดินทาง จากการตรวจสอบข้อมูลรอยตราประทับในหนังสือเดินทางพบว่า หนังสือเดินทาง หน้าที่ 10 ปรากฏรอยตราประทับขาเข้า หมายเลข L0009 ของด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก แม่สอด จึงได้ประสานงานไปยัง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส ให้ข้อมูลมาว่าตราประทับดังกล่าว ไม่มีการเบิกใช้ในราชการของทางตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาสแต่อย่างใด ตราประทับขาเข้า หมายเลข L0009 ของด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก เป็นตราประทับที่มีการใช้ปลอมและเคยมีการจับกุมผู้ใช้รอยตราประทับเลขที่นี้แล้ว ในพื้นที่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 10 ต.ค.68 โดย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ได้ประสานข้อมูลไปยังหน่วย ตรวจคนเข้าเมืองพื้นที่ชายแดน เพื่อเฝ้าระวังคนต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงใช้ตราประทับปลอมดังกล่าว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางในระบบสารสนเทศของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจไบโอเมทตริก ลักษณะเฉพาะของ (BIOMETRICS) ปรากฏข้อมูลว่านายมูวี่ แม็กเวล มูติโซ่ ผู้ต้องหาชาวเคนย่า ผู้ถูกจับได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 ตอนต้นปีที่มีการส่งตัวกลุ่มสแกมเมอร์กลับประเทศ ผ่านกระบวนการ NRM ในภารกิจส่งตัวคนต่างด้าวถูกหลอกไปทำงานในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.68 ถูกส่งกลับไปที่ประเทศเคนย่า จากนั้นได้หวนกลับมาหวังทำงานสแกมเมอร์อีกครั้ง ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ได้เดินทางออกจากประเทศเคนย่า ไปยังประเทศมาเลเซีย เดินทางถึงประเทศมาเลเซียวันที่ 14 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้มีกลุ่มขบวนการนำพาเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ผ่านช่องทางตรวจอนุญาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ผู้ถูกจับได้ส่งหนังสือเดินทาง (ของกลาง) ให้กับชายไทยไม่ทราบชื่อ เพื่อนำหนังสือเดินทางดังกล่าวไปตีตราประทับปลอมเพื่อใช้เดินทางในราชอาณาจักรไทย

ภายหลังจากได้รับหนังสือเดินทางผู้ถูกจับเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียเข้ามายังจังหวัดนราธิวาสนั่งรถมาจนถึงจังหวัดตาก และได้ลักลอบเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติเพื่อไปทำงานในบริษัททุนจีนพื้นที่จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยได้ทำงานในบริษัททุนจีนแห่งหนึ่งเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือน จนทางการเมียนมาประกาศกวาดล้างและปล่อยให้เดินทางกลับเอง จึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศเคนย่า โดยลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ และจองตั๋วโดยสารสายการบินจากท่าอากาศยานแม่สอดไปยังกรุงเทพมหานคร

ก่อนถูกจับกุม ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันควบคุมตัวส่ง พันตำรวจโท บุญเลิศ ทิพย์ศรีบุตร สารวัตรสอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป