พิษณุโลก “อนุทิน”ควงภรรยา กราบพระพุทธชินราช รับประทานอาหารเที่ยงกับรองผู้ว่าฯ ผบช.ภาค 6 ผบ.มทบ.39
บอกนับถือองค์สมเด็จพระนเรศวร และพระพุทธชินราช จึงมาส่วนตัวไม่ได้คุยการเมือง แค่ถามปัญหาชายแดนไทย-พม่า
วันที่ 18 ตุลาคม 68 นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี พร้อมภรรยา เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเนื่องจากมาภารกิจส่วนตัว แจ้งเพียงผู้บริหารจังหวัดพิษณุโลกเช้าวันเดียวกัน จึงมีผู้มาต้อนรับเล็กน้อย อาทิ นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าฯพิษณุโลก หัวหน้าสำนักงานจังหวัด, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 ฯลฯ มุ่งหน้าเดินทางไปที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือวัดใหญ่ ด้วยรถยนต์อัลพาทสีดำ
นายอนุทิน นายกฯ ใส่เสื้อแขนสั้นเรียบง่ายสีฟ้า มาพร้อมคู่สมรสใส่เสื้อสีขาว เดินทางเข้ากราบสักการะขอพร พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และท้าวเวสสุวรรณ ภายในวิหารหลวงพ่อพุทธชินราช เปรยว่า เหตุที่มาเยือนพิษณุโลกกระทันหัน ไม่มีอะไร เนื่องจาก ตนนับถือองค์สมเด็จพระนเรศวรและพระพุทธชินราชจึงขอกราบไหว้เป็นการส่วนตัว
บรรยากาศภายในวิหารวัดใหญ่เป็นไปตามปกติ มีนักท่องเที่ยวสักการะพระพุทธชินราชมีอยู่จำนวนหนึ่ง ระหว่างที่นักท่องเที่ยวบางคนสังเกตเห็นและพอจำได้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรี จึงขอถ่ายรูปด้วย
นายกฯใช้เวลาอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารที่ “บ้านไม้” ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก โดยนั่งร่วมรับประทานอาหารกับภรรยา(คุณจ๋า)พร้อมกับนายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าฯพิษณุโลก, หัวหน้าสำนักงานจังหวัด, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39, กำนัน ต.หัวรอ, ผอ.ท่าอากาศยานพิษณุโลก ฯลฯ และยังมีผู้ติดตามอีกประมาณ 2-3 โต๊ะเท่านั้น
ในวงสนทนา ไม่ได้พูดคุยถึงการเมือง เนื่องจากภารกิจส่วนตัว เพียงสอบถามถึงปัญหาชายแดนไทย-พม่าเล็กน้อย หลังรับประทานอาหารเสร็จ นายกฯ ไม่ยอมให้ คณะของรองผู้ว่าฯเป็นผู้จ่ายเงินค่าอาหาร นายกฯอนุทินเป็นผู้จ่ายเงินเองทั้งหมด แค่หลักหมื่นบาทเท่านั้น จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปสนามบินพิษณุโลกและเดินทางกลับ กทม.