ร.อ.ธรรมนัส ติดตามปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก สั่งเร่งตรวจสอบและเสนอ ครม.แก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ที่เขื่อนเชียงราย (ฝายน้ำกก) บ้านป่ายางมน ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมีเครือข่ายชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก ประกอบด้วย กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรฮักแม่น้ำกก กลุ่มเครือข่ายชาวบ้านแม่น้ำกก และกลุ่มผู้ใช้น้ำฝั่งขวาที่ 1 รวมประมาณ 30 คน นำโดยนายปฐมพงษ์ ฤทธิ์แผลง ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำฝั่งขวาที่ 1 เดินทางมายื่นหนังสือถึงรองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก พร้อมเรียกร้องให้มีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และทวงถามนโยบายของรัฐบาลในการจัดการปัญหาสารพิษข้ามพรมแดน

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวระหว่างการรับฟังปัญหาว่า ต้นตอของสารพิษในแม่น้ำกกเกิดจากการทำเหมืองทองคำและแร่แรร์เอิร์ธในฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลให้สารพิษไหลปนเปื้อนเข้าสู่แม่น้ำสายหลักของไทย จึงจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการเจรจากับทางการเมียนมา เพื่อให้เหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าวดำเนินการภายใต้มาตรฐานที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ จะมีการพิจารณาแนวทางสร้างประตูน้ำในพื้นที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดักตะกอนก่อนที่น้ำจะไหลเข้าสู่ประเทศไทย รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาที่ดิน และกรมประมง ตรวจสอบสารพิษตกค้างทั้งในดินและน้ำ รวมถึงสารพิษที่อาจเจือปนในสัตว์น้ำและพืชผลทางการเกษตร

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า หน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และควรจัดหาแหล่งน้ำทดแทนเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายมีน้ำสะอาดใช้ในการอุปโภคบริโภค

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า จะนำปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจหาแนวทางแก้ไข และเตรียมหารือร่วมกับผู้นำรัฐฉาน เพื่อหาทางออกในการจัดการสารพิษจากเหมืองแร่ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงนโยบายด้านราคาข้าวว่า ภายในปีนี้กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินโครงการสำคัญหลายโครงการเพื่อควบคุมปริมาณผลผลิตในตลาดและผลักดันให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม.