การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของหัวหน้าคณะลูกนเรศวร “เปรมฤดี ชามพูนท” บนแผ่นดินสองแคว

การย่างก้าวของ “ดร เปรมฤดี ชามพูนท” ผู้สมัครนายกเทศบาลนครพิษณุโลก เบอร์ 3 ในฐานะหัวหน้าคณะลูกนเรศวร ตระเวณพบปะพี่น้องประชาชนภายในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ดูเหมือนว่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นยิ่ง เข้าถึงลึกซึ้ง ทำให้ทุกกลุ่มคนจับตามองอย่างระทึก

เนื่องจากล้วนแล้วมีคำชี้แจงและการวางแผนแต่ละโครงการที่จะดำเนินการจัดทำสามารถอธิบาย เพื่อสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

เพราะฉะนั้นการกำหนดทิศทางพัฒนาเทศบาลนครพิษณุโลก มิใช่การงมเข็มในแม่น้ำน่าน ไม่ใช่เรื่องทึกทักเอื้อนเอ่ยล่องลอยอยูในสายลม

การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆในการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการพัฒนากิจกรรมต่างๆ เช่น โครงการสาธารณูปโภค เช่น ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา ตลิ่งแม่น้ำน่าน ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการแก้ไขจำนวนมาก นำมาแห่งการนำเสนอโครงการรวมถึงการอธิบายเหตุและผลแห่งการได้มามิใช่เรื่องง่ายดายนัก เพราะทุกจังหวัดก็มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองอย่างแน่นอน หากมีเพียงงบภาษีของประชาชนในเขตเทศบาล คงเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง

ชาวสองแควต้องหันกลับแลอดีต ผลงานปรากฎสีสันตระการตา งานประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และอื่นๆ ทึ่ผ่านมา มีความงดงามหลากหลายไม่น้อยหน้าใคร อีกทั้งในสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกข้างของ ดร. เปรมฤดี ชามพูนท มีความขัดเจนยิ่ง

หากหวนคำนึงถึงนักการเมืองระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในอดีตภายใต้อุ้งปีกของนายสุชน ชามพูนท อดีต สส.พิษณุโลก และอดีตรัฐมนตรี มีเพื่อนตายสามารถนั่งในอยู่ในใจคนตลาดเมืองสองแควยุคเก่ามาอย่างยาวนาน สืบทอดจนมาถึงนางเปรมฤดี ชามพูนท ที่หอบหิ้วกันมาทุกยุคสมัยทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ดุจดั่งเป้าหลอมและการปลูกฝังผ่านแนวทางการต่อสู้มาอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด

ดังนั้น การต่อสู้ในสนามเลือกตั้งนายกเทศบาลนครพิษณุโลก ครั้งนี้ ด้วยเกียรติยศและศักดิ์สรี จึงเป็นเดิมพัน ที่ค่อนข้างมีราคาแพงและสูงยิ่ง คอการเมืองระดับพระกาฬ ประเมินสถานการณ์ว่า อาจเป็นความแค้นฝังหุ่น

เพราะฉะนั้นการที่จะก้าวข้ามผ่าน “เปรมฤดี ชามพูนท” จึงคงไม่ง่ายดายนักกับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

error: Content is protected !!