สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์
ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปประทับเครื่องบินพระที่นั่ง ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก
เมื่อเสด็จถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นางสาวจิตฤดี วีระเวสส์ รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 พลโทกิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 พลตำรวจโทกิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 นาวาอากาศเอกเสรวรรถคล้ายพุฒ ผู้บังคับการกองบิน พร้อมข้าราชการและประชาชน เฝ้ารับเสด็จ จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 46 ไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
โอกาสนี้ เสด็จเข้าพระวิหารพระพุทธชินราช ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธชินราช พระประธานพระวิหาร จากนั้น ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระพี่นางสุพรรณกัลยา
ต่อจากนั้น เสด็จในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยมี พระเทพรัตนมุนี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานสงฆ์
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติยาวนาน มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมและประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก
ส่วนในพงศาวดารเหนือกล่าวไว้ว่า ” ในราวพุทธศักราช ๑๙๐๐ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก (พระมหาธรรมราชาที่ 1) เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงสุโขทัย ทรงมีศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกและคัมภีร์ศาสนาอื่น ๆ จนช่ำชองแตกฉาน หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก พระองค์ได้ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน มีพระปรางค์อยู่กลาง มีพระวิหาร ๔ ทิศ มีพระระเบียง ๒ ชั้นและทรงรับสั่งให้ปั้นหุ่นหล่อพระพุทธรูปขึ้น ๓ องค์ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารทั้ง ๓ หลัง”
ต่อมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2458 ปัจจุบันจึงมีชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อให้เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนสืบไป
ก่อนเสด็จกลับ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ และราษฎรจากต่างจังหวัดที่เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จเพื่อชื่นชมพระบารมีเป็นจำนวนมาก
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก