ศึกหนัก “พรรคประชาชน” โดน“รุมกินโต๊ะ” ในสนามเลือกตั้งซ่อม สส. พิษณุโลก เขต 1 ส้ม-แดง ดวลเดือด

สนามเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก เขต 1 แทน”หมออ๋อง”ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พิษณุโลก และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทำให้พ่ายพลมาจัดตั้งพรรคใหม่ในนาม “พรรคประชาชน” และกำหนดการเลือกตั้งซ่อมในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน นี้

โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 พิษณุโลก จำนวน 207 หน่วยเลือกตั้ง ประกอบด้วย อำเภอเมืองพิษณุโลก (เฉพาะตำบลในเมือง ตำบลอรัญญิก ตำบลวัดจันทร์ ตำบลบ้านคลอง ตำบลพลายชุมพล ตำบลท่าทอง ตำบลบึงพระ ตำบลวัดพริก และตำบลวังน้ำคู้

การเลือกตั้งซ่อม สส. แทน “หมออ๋อง”พรรคประชาชน ได้ส่งนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ โฟล์ค เบอร์ 1 ทีมงานหมออ๋อง ทายาทพิษณุโลกไทยนครหล่อยาง ร้านยางเก่าแก่ของเมืองพิษณุโลก บิดาคือนายเกียรติศักดิ์ หรือเฟี๊ยต ชนะบูรณาศักดิ์ อดีตเคยเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอเมือง และนั่งเก้าอี้รองประธานสภา อบจ.พิษณุโลก อีกด้วย

นายณฐชนน เคยทำพื้นที่ในฐานะผู้ชำนาญการประจำตัวหมออ๋องมานาน 5 ปี ย่อมมีประสบการณ์ทางการเมืองรู้จักคุ้นเคยผู้คนมาจำนวนไม่น้อยนัก พื้นฐานทางด้านการศึกษา มีเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนสาธิตวิทยาลัยครูพิบูลสงคราม พิษณุโลก โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยนานาชาติ นอกจากนั้นยังเคยเป็นประธาน YEC หอการค้าจังหวัดพิษณุโลก และอดีต Young FTI สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก

การเลือกตั้ง สส.เมื่อปี 2566 หมออ๋อง พรรคก้าวไกล มีคะแนนมาอันดับ 1 จำนวน 40,842 คะแนน อันดับ 2 นายอดุลวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ 19,096 คะแนน อันดับ 3 นางสาวณัฐทรัชต์ ชามพูนท พรรคเพื่อไทย 18,180 คะแนนอันดับ 4 นายธนิท กิตติจารุรักษ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ 10,229 คะแนน อันดับ 5 นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร พรรคประชาธิปัตย์ 3,979 คะแนน

ทางด้านพรรคประชาชน ส่งคนดังของพรรคมาพบสมาชิก เริ่มตั้งแต่ไก่โห่ก่อนวันรับสมัคร “สส.เท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ณ โรงแรมหรรษนันท์ อำเภอเมืองพิษณุโลก หลังจากนั้นมีนายศราวุธ ใจหลัก เลขาธิการพรรค สส.บัญชีรายชื่อ นางสาวอมรรัตน์ โชคปมจิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน นายวิโรจน์ ลักขณาดิศร สส.บัญชีรายชี่อ พรรคประชาชน และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นต้น

นับว่าพรรคก้าวไกล มีคะแนนนิยมค่อนข้างสูงนำโด่ง ในการเลือกตั้งปี 2566 การเลือกตั้งซ่อม สส.ครั้งนีั ทำให้พรรคการเมืองต่างๆในช่วงแรก “ถอยร่นอย่างไร้กระบวนท่า” จนในที่สุดพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล ตัดสินใจส่งนายจเด็ศ จันทรา หรือ บู้ เบอร์ 2 อดีตพนักงาน ธ.ก.ส.จบการศึกษาจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม เช่นเดียวกัน และปริญญาตรี-โท มหาวิทยาลัยนเรศวร พ่วงท้าย ต่อมาได้ลาออกจาก ธ.ก.ส.มาประกอบธุรกิจส่วนตัวกับครอบครัวจนประสบผลสำเร็จ

จนกระทั่งในปี 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ผลักดันลงสมัคร สส.พิษณุโลก เขต 3 และเป็นการลงสมัคร สส.ครั้งแรก มีคะแนนมาอันดับ 2 พ่ายแพ้ให้กับนายพงษ์มนู ทองหนัก สส.รวมไทยสร้างชาติ ศิษย์ก้นกุฏินายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปเพียงกว่า 700 คะแนน ซึ่งสร้างกระแสความฮือฮาในแวดวงการเมืองสองแคว และฉายแววอย่างน่าจับตามอง

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันเพียง 2 คน คือนายณฐชนน เบอร์ 1 พรรคประชาชน กับนายจเด็ศ เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย นับว่านายจเด็ศเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่ขวางกั้นเส้นทางเดินเข้าสู่รัฐสภาของนายณฐชนน แตกต่างกับหมออ๋องโดยสิ้นเชิง เพราะในครั้งนั้นมีผู้สมัครหลายคนหลายพรรค ครั้งนี้ราวกับว่าทุกพรรคหันมา “รุมกินโต๊ะ”พรรคประชาชน

โดยมีการขับเคลื่อนอย่างพร้อมเพียงประสานความร่วมมือของเหล่าศัตรูทางการเมืองของพรรคประชาชน อาทิ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ที่เพิ่งเอาชนะผู้สมัครเครือข่ายพรรคประชาชน คนสนิทของหมออ๋อง มาหมาดๆ ระดมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จัดตั้งอย่างมีระบบทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ในพื้นที่ตำบลรอบนอก

นอกจากนั้นแว่วมาว่า ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ระดมทั้งรองนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลในสังกัด “คณะลูกนเรศวร” ช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทย สุดลิ่มทิ่มประตู อันสืบเนื่องมาจากพรรคประชาชน ประกาศส่งทายาทโรงแรมหรรษนันท์ อำเภอเมืองพิษณุโลก ลงสมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

อันผนวกกับพวกพ้องของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก ญาติพี่น้องของ ดร.หญิง ลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ หรือ(ดร.อรุณี กาสยานนท์) สส.บัญชีรายขื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พิษณุโลก ซึ่งมีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก ในพื้นที่ตำบลวัดจันทร์

พรรคเพื่อไทย มี สส.พิษณุโลก 2 คน เขต 2 คือ นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก และนางสาวพิมพ์พิชชา หวังศุภกิจเจริญ สส. พิษณุโลก เขต 4 ร่วมแรงอย่างแข่งขัน โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข “ขุนศึกแห่งลุ่มน้ำยม”คุมบังเหียนและกระเป๋าใบใหญ่ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง นับว่าเป็นมือจัดตั้งที่เพรียบพร้อมไปด้วยแนวร่วมระดับแถวหน้า และความเก๋าเกมทางการเมือง ที่ต้องใช้กลยุทธ์เผด็จศึกครั้งนี้ หมายถึงหน้าตาของรัฐบาล

ประการสำคัญเขตเลือกตั้งที่ 1 ยังอยู่ในเขตทหาร กล่าวคือ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ และกองบิน 46 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าพรรคก้าวไกล วิพากษ์วิจารณ์ค่อนแคะกระทบกระเทือนกองทัพมาตามลำดับ อาจไม่เป็นที่พึงปรารถนา ทำให้เป็นอุปสรรคขวากหนามให้กับผู้สมัครพรรคประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกทั้งการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้าไม่เหมือนกับการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไป คะแนนของพรรคประชาชน อาจขาดหายไปเป็นจำนวนไม่น้อย นั่นคือ คะแนนล่วงหน้าของผู้ที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดพิษณุโลก โดยในการเลือกตั้งปี 2566 “หมออ๋อง”ได้มาจากคนต่างประเทศและต่างจังหวัด จำนวน 4,671 คะแนน

เมื่อวันที่ 6-7 กันยายน ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย นำ สส.ภาคเหนือ- อีสาน ลุยพิษณุโลก เปิดปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ตำบลวังน้ำคู้ และสวนกลางเมืองพิษณุโลก เท่ากับกรีฑาทัพมาสร้างกระแสให้กับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ทำให้อุณหภูมิการเมืองสองแควระอุและทวีความร้อนแรงยิ่ง ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 15 กันยายน นี้

สนามเลือกตั้ง สส.สองแคว จึงเป็นสนามที่ดวลเดือดระหว่าง ส้ม-แดง และเป็นอีกสนามหนึ่งที่ทุกย่างก้าวจะต้องถูกจับตามองอย่างระทึก

กร บ้านกร่าง รายงาน

error: Content is protected !!