พิษณุโลก จนมุมสักยันต์ห้าแถว -ครุฑ -ฤาษี ตะครุบโจรย่องเบาละม่อม เข่าหอพักลักทรัพย์
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พล.ต.ต.ไสว ครุธผาสุข ผบก.สส.ภ.6 ,พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ รอง ผบก.ภ.จว. พิษณุโลก พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ถาบุญชู ผกก.สืบสวน 2 บก.สส. ภ.6 , กก.สืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก สว.สืบสวน สภ.เมืองและชุดจับกุม สภ.เมืองพิษณุโลก
โดยร่วมกันจับกุมตัว นายกวี บุญสวาย อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 20 ม.6 ต.บ้านกู่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 38/2567 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ฐานกระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำได้”
ทั้งนี้ จับกุมได้ที่หอพักคุ้มสุพรรณ เลขที่ 7/1 ม.4 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 โดยมีของกลางจำนวน 50 รายการ ส่วนใหญ่เป็นธนบัตรและเหรียญสะสม ที่ขโมยมา อาทิ เหรียญกษาปณ์ไทย 5 บาท ปี 20 ปี 25 เหรียญ 1 บาท ตราครุฑจำนวนมากและเหรียญบาทตราเรือสุพรรณหงษ์จำนวน 12 เหรียญ พร้อมบัตรเดบิต-บัตรเอทีเอ็มอีกด้วย โดยมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ110i สีชมพู ขาว หมายเลขทะเบียน ขทพ 823-พิษณุโลก ใส่รองเท้าแตะก่อเหตุ พร้อมยึดอุปกรณ์งัดแงะต่างๆ จำนวนมาก
จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก โดยมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และผู้เสียหายชี้ตัวนายกวีฯ ยืนยันของกลาง พบว่า ก่อเหตุลักทรัพย์จำนวน 5 ครั้งในเขต สภ.เมืองพิษณุโลก คือ
(1.)เหตุลักทรัพย์ วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่เกิดเหตุ : อบต.จอมทอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ปรากฏภาพตามวงจรปิดจับภาพคนร้าย ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณ ใช้เสื้อโพกศีรษะปิดบังใบหน้า ไม่สวมเสื้อ สะพายกระเป๋าทรงสามเหลี่ยม กางเกงขายาวพับขาหนึ่งข้าง รองเท้าผ้าใบ มีลักษณะเด่นคือรอยสักบนแผ่นหลัง รูปครุฑ รูปฤาษี รูปยันต์ห้าแถว จากซ้ายไปขวา
(2)เหตุลักทรัพย์วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เหตุที่ ร้านฉัตรพันธุ์ปลา ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก มีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย ใช้เสื้อโพกศีรษะปิดบังใบหน้า เสื้อแขนยาว สวมถุงมือ สะพายกระเป๋าทรงสามเหลี่ยม กางเกงขาวยาวพับขา รองเท้าแตะ กระเป๋าทรงสามเหลี่ยมที่พบในห้องผู้ต้องหา ลักษณะตรงกันกับกระเป๋าที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุซึ่งผู้เสียหาย คือ เจ้าของบ้าน ชี้ยืนยันของกลาง เหรียญที่ระลึก ซึ่งเก็บไว้ในห้องทำงานของตน จำนวน 3 เหรียญ อยู่ในตู้เสื้อผ้าของห้องพักผู้ต้องหา ที่หอพักคุ้มสุพรรณ ต.บ้านกร่าง อ.เมือง
(3)เหตุลักทรัพย์ วันที่ 4 มกราคม 2567 เหตุเกิดที่ อบต.ไผ่ขอดอน อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก แม้ไม่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เนื่องจากคนร้ายตัดสายเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดและขโมยเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปด้วย แต่ผู้เสียหาย คือ งานกองคลัง อบจ.พิษณุโลก ชี้ยืนยันของกลาง สร้อยข้อมือทองคำลายผลไม้ ที่จัดเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานตึกที่ทำการ อบต.ไผ่ขอดอน ว่าเป็นทรัพย์สินของตน ซึ่งภายหลังพบภายในตู้เสื้อผ้าของห้องพักผู้ต้องหา หอพักคุ้มสุพรรณ บ้านกร่าง อ.เมือง
(4) เหตุลักทรัพย์ วันที่ 26 มกราคม 2567 เหตุเกิด อบจ.พิษณุโลก ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก มีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย สวมหมวกทรงบักเก็ต ใช้เสื้อโพกศีรษะปิดบังใบหน้า เสื้อสีน้ำตาล แจ๊กเก็ตสีดำ สวมถุงมือ กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าแตะ โดยผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ อบจ.พิษณุโลก ชี้ยืนยันของกลาง ธนบัตรฉบับละ 10 บาท จำนวน 2 ใบ ว่าเป็นทรัพย์สินของตน ซึ่งตนเก็บไว้เป็นที่ระลึกเนื่องจากได้รับมอบจากผู้บังคับบัญชา จำนวน 5 ฉบับ ซึ่งภายหลังพบภายในตู้เสื้อผ้าของห้องพักผู้ต้องหา หอพักคุ้มสุพรรณ ต.บ้านกร่าง
(5)เหตุลักทรัพย์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่เกิดเหตุ : ปั๊มน้ำมัน พีที ต.ไผ่ขอดอน อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย ใช้เสื้อโพกศีรษะปิดบังใบหน้า เสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ โดยผู้เสียหาย คือ พนักงานปั๊มน้ำมันพีที) ชี้ยืนยันของกลาง ธนบัตรไทย ฉบับละ 20 บาท จำนวน 128 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2,560 บาท และเหรียญ 1 บาท เหรียญ 2 บาท เหรียญ 5 บาท เหรียญ 10 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายทั้งสองจัดเก็บไว้ในห้องทำงานภายในปั๊มพีที สาขาพิษณุโลก 2 ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของปั๊มน้ำมัน พีที ซึ่งภายหลังพบภายในห้องพักผู้ต้องหา หอพักคุ้มสุพรรณ ต.บ้านกร่าง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลเหตุลักทรัพย์ที่มีพฤติการณ์ก่อเหตุใกล้เคียงกันนี้ต่อไปอีก