รายงานแจ้งว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอัมพร รักธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์ กับพวก คือ นายปิ้ว ปัญญจามร นายสุริยา ชัยเดชทยากุล นางอุบลศรี ชูกุล หจก.ไทยธรณีเหมืองแร่ นายสนิท พันธุ์ประเสริฐ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ไทยธรณีเหมืองแร่ นายยศพล พันธ์ประเสริฐ นายฤทธิโรจน์ หรือฤทธิ์โรจน์ แกล้วทนงค์ ออกใบอนุญาตขนแร่ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยธรณีเหมืองแร่ โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของจำนวนแร่ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 137 ประกอบมาตรา 86  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2563 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาดังนี้ 

  1. นายอัมพร รักธรรม จำเลยที่ 1 นายปิ้ว ปัญญจามร จำเลยที่ 2  นายสุริยา ชัยเดชทยากุล จำเลยที่ 3  นางอุบลศรี ชูกุล จำเลยที่ 4 มีความผิดตาม ป.อ. ม.157 (เดิม)
    2.ลงโทษ จำคุก นายอัมพร รักธรรม จำเลยที่ 1 จำนวน 36 เดือน นายปิ้ว ปัญญจามร จำเลยที่ 2 จำนวน 126 เดือน นายสุริยา ชัยเดชทยากุล จำเลยที่ 3 จำนวน 18 เดือน นางอุบลศรี ชูกุล จำเลยที่ 4 จำนวน 54 เดือน 
    3. หจก.ไทยธรณีเหมืองแร่ จำเลยที่ 5  นายยศพล พันธ์ประเสริฐ  จำเลยที่ 7 นายฤทธิโรจน์ หรือฤทธิ์โรจน์ แกล้วทนงค์  จำเลยที่ 8  ที่ถูกชี้มูลความผิดอาญา ม.157 ประกอบ 86 และมาตรา 137 แต่คดีขาดอายุความแล้ว 
  2. ส่วน นายสนิท พันธุ์ประเสริฐ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ไทยธรณีเหมืองแร่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีมาฟ้องระงับไป จำหน่ายคดีจากสารบบ 

ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มีมติเห็นชอบกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้ง

CR: www.isranews.org