เชียงราย รวบพ่อเลี้ยงเมายาเพี้ยน ฆ่าลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ เอาศพทิ้งน้ำ

เวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 13 พ.ค.68 พ.ต.อ.สงกรานต์ สันวงค์ ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภาสกร สุขะ รอง ผกก.(สอบสวน) นำตัว นายชำนาญ แซ่ทั่ง อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าลูกเลี้ยงซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 2 ขวบ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 2 บ้านห้วยผึ้ง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากเป็นจุดที่นายชำนาญได้ลงมือทำร้ายเด็กจนเสียชีวิต

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ด.ญ.วนิดา แซ่ซา อายุ 2 ปี ได้หายไปจากบ้านเลฃที่ 118 หมู่ 2 บ้านห้วยผึ้ง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบว่า นายชำนาญ แซ่ทั่ง พ่อเลี้ยง ของ ด.ญ.วนิดา และเป็นสามีใหม่ ของนางนามู แซ่เลาะ มารดาของ ด.ญ.วนิดา มีพิรุธน่าสงสัย เพราะหลบหนีออกจากบ้านไปขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบเพื่อช่วยกันตามหาเด็กหญิงที่หายไป
เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามจนพบตัวนายชำนาญ ในวันที่ 11 พ.ค.68 เวลาประมาณ 15.00 น. บนถนนสาธารณะในบ้านห้วยผึ้ง สอบสวนเบื้องต้นอ้างไม่รู้ไม่เห็นว่า ด.ญ.วนิดา หายออกจากบ้านได้อย่างไร แต่ขัดกับคำให้การของนางนามู ที่ให้การว่านายชำนาญฯ มีพฤติกรรมชอบทำร้ายเด็ก และได้อุ้มเด็กไปในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 8 พ.ค.68 ต่อเนื่องกลางดึกของวันที่ 9 พ.ค.68 ระหว่างสอบปากคำได้ตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายชำนาญ พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนและมอร์ฟีน จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนไปดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีน) และควบคุมตัวนางนามูไปสอบสวนด้วย เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะรู้เห็นเป็นใจ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากสงสัยว่านายชำนาญ น่าจะเป็นผู้ทำร้ายเด็ก จนกระทั่งวันที่ 12 พ.ค.68 เวลาประมาณ 16.00 น. นายชำนาญได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 เวลาประมาณ 22.00 น. ได้อุ้ม ด.ญ.วนิดา จากห้องเก็บของ เข้าไปในบ้านเลขที่ 118 หมู่ 2 แล้วได้โยนเด็กลงพื้นจำนวน 5 ครั้งจนกระทั่งเด็กเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพเด็กใส่กระสอบแล้วใช้รถจักรยานยนต์ขับออกจากบ้าน โดยวางศพเด็กไว้ตรงที่พักเท้าของรถจักรยานยนต์ ขับไปจอดบริเวณสะพานข้ามลำน้ำคำ เขตบ้านสามัคคีเก่า หมู่ 11 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วได้อุ้มศพเด็กไปทิ้งลงลำน้ำคำ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายชำนาญไปชี้จุดที่ทิ้งศพ แล้วช่วยกันตามหาร่างของเด็กจนพบร่างของ ด.ญ.วนิดา อยู่ในลำน้ำคำ ห่างจากจุดที่นายชำนาญฯ ทิ้งศพ ประมาณ 500 เมตร พนักงานสอบสวน และแพทย์ประจำโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง ได้ชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย และได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น และปิดบังการตาย โดยการ ซ่อนเร้น ย้าย ทำลาย เพื่อปิดบัง การตาย เหตุที่ทำให้ตาย” เพิ่มเติมกับนายชำนาญ และได้ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำสารภาพในวันนี้
นางนาตยา แซ่ซัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่ ม.2 บ้านห้วยผึ้ง ต.แม่สลองใน เปิดเผยว่า พ่อเลี้ยงเด็กได้ไปแจ้งประชาสัมพันธ์หมู่บ้านให้ช่วยประกาศชาวยตามหาเด็ก จึงกระจายกำลังกันตามหา แต่เท่าที่รู้เด็กเจ็บขาอยู่ไม่น่าจะไปไหนได้เอง ต่อมาแม่เด็กขอแจ้งความลูกหาย ส่วนพ่อเลี้ยงหนีไปแม่สาย พี่สาวของชำนาญจึงเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนสุดท้ายถึงได้มารู้อีกทีว่าเด็กถูกทำร้าย และชำนาญเอาศพเด็กไปทิ้งลงแม่น้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร เท่าที่ทราบชำนาญจะมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเด็ก ทั้งๆที่น้องน่าสงสารเป็นเด็กปากแหว่งเพดานโหว่
นายจะวะ แซ่ซา พ่อแท้ๆของเด็ก เล่าว่า มีคนมาบอกว่าน้องหายไป ก็เลยมาช่วยตามหา จนสุดท้ายจึงไปเจอศพเด็กอยู่ในลำน้ำคำ เห็นลูกเจอแบบนี้หดหู่มากทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ถึงทำร้ายเด็กแบบนี้ ทำร้ายลูกทำร้ายเด็กแบบนี้ไม่น่ามีชีวิตอยู่ ถ้าเลี้ยงไม่ไหวก็บอกแล้วว่าให้เอามาให้ตนเลี้ยงแต่ก็ไม่ยอมเอามาให้ เท่าที่รู้ทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมยาเสพติด ที่เลิกกันก็เพราะว่าเตือนไม่ให้เสพยาแล้วไม่ฟัง แต่ไม่คิดว่าจะใจร้ายทำร้ายลูกได้ลงคอกันขนาดนี้ ทั้งๆที่เด็กน่าสงสารเพราะเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ อยากให้คนก่อเหตุถูกลงโทษในสถานหนัก
ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อเลี้ยงและแม่เด็กเสพยากันมาก่อน แล้วจะเข้าในห้องนอน จึงเอาเด็กมาอยู่ด้านนอก แต่ว่าเด็กเกิดร้องให้เสียงดัง คาดว่านายชำนาญ พ่อเลี้ยงน่าจะเกิดความรำคาญ จึงลงมือก่อเหตุทำร้ายเด็กอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งทางตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อมต่างๆ เพื่อดำเนินคดีในทุกฐานความผิดกับผู้ก่อเหตุตามกระบวนการของกฏหมายต่อไป
