พิษณุโลก”เปรมฤดี” เผยแผนพัฒนาถนนพระองค์ดำเป็น”สตรีทฟุ๊ด”ทุบเกาะกลางทิ้ง ปรับโฉมตลาดโคกมะตูมเป็น”ช็อปปิ้งมอลล์” พร้อมจอดรถยนต์ 200 คัน กวาดต้อนอดีตคู่ต่อสู้เข้ามุ้งเลียบ
วันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่โรงแรมท็อปแลนด์อาเขต อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ดร.เปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครนายกเทศบาลนครพิษณุโลก เบอร์ 3 แถลงว่า จะนำเรือนแพมาตั้งเชิงสัญลักษณ์ตั้งแต่ตลาดใต้ โดยการนำแพมาเรียงกัน เนื่องจากปัจจุบันกลายเป็นตลิ่งแม่น้ำน่านไปหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นหน้าศาลากลาง หน้าศาลจังหวัด หน้า รร.เฉลิมขวัญสตรี สถานที่อื่นๆ เรือนแพอยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะพี่น้องชาวแพต้องมีที่จอดรวมทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ดร.เปรมฤดี กล่าวอีกว่า พยายามทำให้เมืองพิษณุโลกจากจุดอ่อนเป็นจุดแข็งบริหารพื้นที่ เพื่อต้องการให้เป็นเมืองที่ผ่านเกณฑ์ต่างๆ และผ่านตัวชี้วัดมาหมดแล้ว ปัจจุบันถนนหนทางเงียบเหงาจากการศึกษาข้อมูลทุกคนอยากให้เป็นศูนย์กลางของจังหวัด จึงมีแนวคิดที่จะทำเป็นนโยบาย 3 นคร มีเป้าหมายการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจไม่ใช่อยู่ในเมืองอย่างเดียว ต้องยกระดับทำกิจกรรม เรามีถนน มีตลาด ซึ่งมีเป้าหมายที่จะตกแต่งเป็นแลนด์มาร์คให้สวยงามมากยิ่งขึ้น มีสีสัน เช่น ไนท์บาร์ซ่า สวนสาธารณะกลางเมือง สถานีรถไฟ วงเวียนหอนาฬิกา จุดแวะเวียนท่องเที่ยว และพัฒนาย่านตลาดใต้ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ
“นอกจากนั้นฝั่งตลาดโคกมะตูม ต้องขยายฐาน ปัจจุบันซบเทราเงียบเหงา ก่อนหน้านี้มีแม่ค้า 600 กว่าคน ปัจจุบันมีแม่ค้าเหลือเพียงกว่า 100 คน โดยจะทำการรื้อตกแต่งใหม่ ก่อสร้างอาคารขายของ ให้เป็น”ซ็อปปิ้งมอลล์”(shopping mall) และสามารถจอดรถยนต์ได้ 200 คัน ทั้งนี้ เพื่อเชื่อมให้โยงกับถนนพระองค์ดำ ให้เป็นศูนย์กลางตอนกลางคืนจะทำให้ถนนเส้นนี้เป็นเยาวราชกลางคืน โดยจะทุบเกาะกลางทิ้ง ปรับปรุงแสงสว่างใหม่ จัดระเบียบใหม่ ทำให้ถนนพระองค์ดำเชื่อมกับตลาดโคกมะตูม ซึ่งอยู่ในย่านเดียวกัน”.ดร เปรมฤดี กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ดร. เปรมฤดี ได้เปิดตัวนายธนิท กิตติจารุรักษ์ อดีตผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ บุตรชายนายเศรษฐา กิตติจารุรักษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอเมือง ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี รวมทั้งนายบวรเดช หรือ ปาล์ม หล้าแหล่ง อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก และอดีตผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคภูมิใจไทย อ๊อดเทวดา หรือ นายนฤภพ ลิมปะพันธ์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมทีมคณะผู้บริหารคณะลูกนเรศวรอีกด้วย
