เมีย-ญาติ ร้องผู้บริหาร สพป.เชียงรายเขต 3 เอาผิดวินัย ผอ.รร.ชนแชมป์กาแฟไทย หนีไม่มีเยียวยา

วันที่ 21 ม.ค.68 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงราย เขต 3 ตั้งอยู่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ญาติๆ ของนายยศพล ไชยเบ้า หรือป๊อป อายุ 33 ปี ผู้ที่เสียชีวิตจากการถูกรถยนต์ของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งตั้งอยู่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชนจนเสียชีวิต ขณะร่วมกับเพื่อนขับขี่รถจักรยานออกกำลังกายบนทางหลวงชนบท 1063 เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 มี่ผ่านมา

โดยพากันสวมเสื้อสัญลักษณ์และถือป้ายไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับ ดร.สุธีรัตน์ อริเดช ผู้อำนวยการ สพป.เขียงราย เขต 3 ให้ดำเนินการกับผู้อำนวยการโรงเรียน เนื่องจากญาติไม่เคยได้รับการเยียวยาแม้จะเคยเจรจากันผ่านอัยการ จ.เชียงราย แต่ก็ตกลงกันไม่ได้

ซึ่ง ดร.สุธีรัตน์ พร้อมด้วยนายไชยรัตน์ จินะราช รองผู้อำนวยการฯ และนายกฤษติพงษ์ ผิวมณี ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายและคดี ได้เข้ารับเรื่อง และ น.ส.โสจิลักษณ์ ใจเบ้า ภรรยาของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าอยากให้มีการลงโทษต่อคนระดับผู้อำนวยการโรงเรียน เพราะหลังก่อเหตุไม่ได้แสดงความจริงใจหรือรับผิดชอบต่อความสูญเสียของครอบครัว ขณะที่ครอบครัวผู้เสียหายเดือดร้อนหนักโดยร้านกาแฟก๋างโต่งคาเฟ่ที่ผู้ตายเคยสร้างขึ้นมาที่ ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย ต้องเปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เพราะไม่มีนายยศพลอยู่แล้ว

ด้าน ดร.สุธีรัตน์ และคณะได้แจ้งว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้แล้ว มีกำหนดแล้วเสร็จใน 90 วัน ขั้นตอนคงเหลือการสอบปากคำ น.ส.โสจิลักษณ์ และคู่กรณี จากนั้นก็จะสรุปผลภายใน 1-2 เดือน ฝ่ายกฎหมายยังแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่ามีมูลและมีโอกาสจะถูกลงโทษทางวินัยสูง

น.ส.โสจิลักษณ์ กล่าวว่า ในการเจรจากันในชั้นอัยการเคยมีการเรียกค่าเยียวยาจำนวน 10 ล้านบาท เพราะสามีของตนยังมีอายุน้อย มีความสามารถและมีอนาคตอีกไกล แต่คู่กรณียืนยันจะให้แค่ 1 ล้านบาท และไม่ได้แสดงความจริงใจให้ด้วยเพราะหลังเกิดเหตุก็ไม่เคยติดต่อมากระทั่งทางนิติกรของ สพป.เชียงราย เขต 3 แจ้งให้ทราบเขาจึงติดต่อไปและให้ผู้เป็นภรรยาเจรจาให้ด้วย ต่อมาในการเจรจาในชั้นอัยการก็ไม่ได้แสดงความจริงใจเหมือนเดิม

นายกฤษติพงษ์ กล่าวว่า ตนเคยโทรศัพท์ไปแจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้เสียหาย ให้มีการเยียวยาและอื่นๆ ต่อมาทราบว่ามีการเจรจากันที่อัยการจังหวัด และผู้อำนวยการโรงเรียนแจ้งกลับมาที่ตนว่าตกลงกันไม่ได้หลังจากที่เขาจะให้ค่าเยียวยา 3 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกับที่ผู้เสียหายมาแจ้งในวันนี้ดังนั้นจึงจะเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนมาสอบถามข้อเท็จจริงภายในสัปดาห์นี้

จากนั้นจะแจ้งให้ฝ่ายผู้เสียหายทราบเพื่อจะพิจารณาว่าจะเจรจากันอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งในชั้น สพป.เชียงราย เขต 3 ถือเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้อำนวยการโรงเรียนหากตกลงกันได้ก็จะได้ข้อยุติโดยไม่ยืดเยื้ออีก

ด้าน ดร.สุธีรัตน์ กล่าวว่านนาม สพป.เชียงราย เขต 3 ตนของแสดงความเสียใจด้วยอย่างยิ่งที่ครอบครัวได้สูญเสียคนที่มีคุณภาพไป ซึ่งเรื่องแบบนี้ใครไม่ประสบคงไม่รู้ว่าทุกข์ยากอย่างไร ดังนั้นจึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว ถ้ามีมูลก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนซึ่งจะถึงขั้นร้ายแรงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับบริบทและมาตรฐานของกรณีนั้นๆ หากผิดวินัยร้ายแรงก็จะถึงขึ้นปลดออกหรือไล่ออกซึ่งก็ต้องเสนอขึ้นไปตามขั้นตอนอีกครั้ง แต่หากไม่ร้ายแรงโทษสูงสุดก็คือการปรับลดเงินเดือน
“สพป เชียงราย เขต 3 ดูแลอำเภอสายเหนือทั้งหมดคือ อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.ดอยหลวง และ อ.เชียงแสน มีบุคลากร 2,000 กว่าคนจะควบคุมจิตใจของทุกคนย่อมทำไม่ได้ จึงต้องว่าตามระเบียบขั้นตอน ซึ่งรับปากว่าจะทำให้เกิดความยุติธรรมอย่างแน่นอน” ดร.สุธีรัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมาพนักสอบสวน สภ.บ้านดู่ ได้แจ้งข้อหาผู้อำนวยการโรงเรียนว่า “ขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย หลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแสดงตัวแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานฯ” และญาติผู้เสียชีวิตยังฟ้องร้องในคดีแพงอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้หลังจาก สพป.เชียงราย เขต 3 แจ้งความคืบหน้าแล้วญาติๆ และ น.ส.โสจิลักษณ์ จึงแยกย้ายกันกลับ ทั้งนี้นายยศพลเคยเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในปี 2564 เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์และเป็นที่รักใคร่ของผู้คบหา.

บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ /// รายงาน

error: Content is protected !!