ให้นายกเทศมนตรีและเทศบาลตำบลหัวรอ บังคับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข 2535

วันที่ 14 สิงหาคม 67 เวลา 13.30 น.ที่ศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก อ่านคำพิพากษา คดีดำ ส.5/2562 คดีแดง ส.7 / 2567 ระหว่างผู้ฟ้องคือ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และพวกรวม 21 คน กับผู้ถูกฟ้องคดีนายกเทศมนตรีตำบลหัวรอ(ที่1)กับพวกรวม 2 คน และบริษัทไทยมีดี ผู้ร้องสอด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานปกครอง หรือเจ้าหน้าที่รัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฏหมายกำหนด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ศาลปกครองนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก โดยมีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงที่ 21 และนัดอ่านผลแห่งคำพิพากษาเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 14 สิงหาคม 67)
สั่งให้เพิกถอนคำสั่งการกระทำทั้งหมดหรือบางส่วน พิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล หรือ มูลฝอย เลขที่ ๖๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๑ ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ออกให้แก่ผู้ร้องสอด โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ออกใบอนุญาต และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ หมวด ๕ มาตรา ๒๕ ถึงมาตรา ๒๘/๑ ควบคุมดูแลผู้ร้องสอดให้ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัดและมิให้กระทำการใดๆ อันก่อให้เกิดเหตุรำคาญแก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คน ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า สืบเนื่องจากปี 2562 ชาวตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ได้ร้องเรียนปัญหาบ่อขยะใกล้วัดบ่อทองคำ ส่งกลิ่นเหม็น น้ำเสีย สมาคมฯจึงได้ยื่นฟ้องนายกเทศบาลตำบลหัวรอ กระทั่งสู้คดีเรื่อยมา กระทั่งศาลปกครองพิษณุโลก มีคำพิพากษาชัดเจนคือ สั่งเพิกถอนใบอนุญาต ที่อนุญาติเอกชน นำขยะมาฝังกลบบริเวณพื้นที่ใกล้วัดบ่อทองคำ และให้นายกเทศมนตรีและเทศบาลให้ดำเนินไปตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข 2535 ถึง 28/1

“นับจากนี้ไปสมาคมฯจะต้องเฝ้าตรวจสอบว่า ผู้ถูกฟ้องคดีและผู้ร้องสอดยื่นอุทรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ ส่วนการบังคับคดีนั้น ทางสมาคมฯจะยื่นคำขอไปศาลปกครองพิษณุโลกหรือศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้มีการบังคับคดี ก่อนที่จะคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดได้ เพื่อให้คำพิพากษาของศาลปกครองพิษณุโลก สามารถนำไปปฎิบัติและบังคับใช้ได้เลย โดยไม่ได้รอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด”นายกศรีสุวรรณ กล่าว

error: Content is protected !!