“ชาดา”บุกพิษณุโลก ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย “นิยม” ลั่น ! เลือกคนพรรคภูมิใจไทย เข้า 3 คน

264

“ชาดา”บุกพิษณุโลก ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย “นิยม”  ลั่น ! เลือกคนพรรคภูมิใจไทย เข้า 3 คน

ช่วงเย็นวันนี้ 24 ม.ค.66 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดูแลว่าที่ผู้สมัครในแถบเหนือล่าง ได้เดินทางขึ้นเวทีปราศรัยที่วัดสามเรือน ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เพื่อช่วยนายนิยม ช่างพินิจ ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขต 4 ซึ่งถือว่าเป็น สส.เกรด A โลดเล่นบนถนนการเมืองมา 23 ปี เคยใส่เสื้อพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทย นาน 18 ปี แต่ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรให้คนพิษณุโลก จึงย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย กระทั่งร่างนโยบายเกษตรให้พรรคภูมิใจไทย ข้าวเปลือกไม่ต่ำ 12,000 บาทต่อเกวียน พร้อมประกาศดันโปรเจ็กต์ใหญ่”เขื่อนบางกระทุ่ม”เหมือนเขื่อนนเรศวร(อยู่ตอนเหนือน้ำน่าน) ใช้งบประมาณ พันกว่าล้านบาทเท่านั้น ดีกว่าทุ่มสร้างเขื่อนเรียงหินป้องกันตลิ่ง 3 พันล้านก็แก้ปัญหาไม่จบ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเป็นอย่างดี อาทิ ส.จ.แก้ว เขต อ.บางระกำ ยังขึ้นเวทีช่วย ส.ส.นิยม หาเสียงระบุ อยากเห็นถนนสี่เลน จากบางระกำไป จังหวัดกำแพงเพชร, นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ นายกเทศบาลตำบลบางระกำเมืองใหม่ ขึ้นเวทีปราศรัยให้เลือกนายนิยม-คนบางระกำไว้ทำงาน ทุ่มคะแนนให้ทิ้งห่าง

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี กล่าวบนเวทีว่า ผมจะใช้เวลาที่เหลือทางการเมือง ผลักดัน พร.บ.ข้าว และโครงการเงินกู้นอกระบบ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย กำลังทำ เรื่องพักหนี้ เพราะที่ทราบดีว่า พักหนี้ แต่ไม่เคยพักดอกเบี้ย แต่วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ทำโครงการ หนี้ไม่เกินหนึ่งล้านบาท จะต้องพักหนี้และพักดอกเบี้ย 3 ปี เนื่องจากปัจจุบันประชาชนเดือดร้อน ไม่มีจะกิน จะต้องไปกู้เงิน อาทิเช่น หากกู้เงิน 100 บาท ภายใน 1 ปี ต้องใช้คืน 600 บาท ถามว่า จะกู้มาทำอาชีพอะไร ถึงจะได้กำไร ถ้าไม่ใช่ ค้ายา

“ยินดีที่”นิยม”กล้าเปลี่ยนพรรคมาอยู่”ภูมิใจไทย” เพราะอยู่พรรคเดิม ไม่มีโอกาสได้ทำอะไร แต่ถ้าพิษณุโลกเลือกคนของพรรคภูมิใจไทยมากว่า 3 คนขึ้นไป รับรองว่า จะพัฒนาจังหวัดมากกว่านี้ เขื่อนบางกระทุ่ม ที่ ส.ส.นิยม ทุ่มเท จะได้เป็นจริง โดยเลิกแบ่งสีเสื้อเหลือง-แดงได้แล้ว หันกลับมาพัฒนาตัวเมืองพิษณุโลกจะดีกว่า

ต่อมา ส.ส.นิยม ช่างพินิจ ได้ขึ้นเวทีกล่าวเปิดความในใจที่ลงสนามการเมืองช่วง 23 ปี ลักษณะอ้อนขอคะแนนเสียงจนน้ำตาซึม ส่งผลให้ชาวบ้านซาบซึ้งถึงเหตุผลการเปลี่ยนพรรค ว่าทำเพื่อคนพิษณุโลก ถึงกับโอบกอดหลังจากลงเวทีปราศรัย”

จากนั้น นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมผู้ติดตาม เดินทางไปยังตัวเมืองพิษณุโลก ย่านสี่แยกบ้านแขก เพื่อรับประทานข้าวและหารือกับว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 เขต คือ นายบวรเดช หล้าแหล่ง(ปาล์ม) เขต 1, นายอิทธิพล บุบผะศิริ เขต 2, นายอนุชา น้อยวงศ์ เขต 3, นายนิยม ช่างพินิจ เขต 4 และ นายนคร มาฉิม เขต 5 ท่ามกลางความเป็นกันเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางลงมาของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทำให้ ว่าที่ผู้สมัครพิษณุโลกเขต 1 ชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์ และตอกย้ำความมั่นใจในเขต 4

สำหรับคู่แข่งทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ก็คือ น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ พรรคเพื่อไทย ชื่อเดิม คือ น.ส.ปานทิพย์ อดีต ส.จ.บางระหำ เคยลงสนามใหญ่ นามพรรคประชาธิปัตย์ แต่พ่ายแพ้นายนิยม

นายล่าสุด ส.ส.นิยม ทิ้งพรรคเพื่อไทย ทำให้อัตราจึงว่าง ทำให้ ส.จ.ปานทิพย์ ลงแทนในนามพรรคเพื่อไทยทันที และประเมินว่า เสื้อแดงยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง โดยเฉพาะ อ.บางกระทุ่ม แต่ อ.บางระกำนั้น เสื้อเหลืองเบ่งบาน ประกอบกับ การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ กลับมีกลุ่มแกนนำเสื้อแดง อาทิ เป๋ คลองเตย และ เจ๋ง ดอกจิก มาร่วมขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย ทำให้หลายคนงง-คาดไม่ถึง แต่ สจ.ปานทิพย์ นั้นได้ตะเวนลงพื้นที่หาเสียง และถือว่า เป็นคน ต.หนองกุลา อ.บางระกำ มีฐานเสียงและทุนจากครอบครัวจากอาชีพผู้รับเหมา

นอกจากนี้ยังมี ว่าที่ผู้สมัครอย่าง”นายอัศวิน นิลเต่า”ที่เพิ่งสวมเสื้อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทันทีที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคพปชร. เดินทางมาตรวจงานของกรมชลประทาน ที่ประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และไปดูตัวและนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะ กับว่าที่ผู้สมัคร 4 คน จาก 5 คนของพิษณุโลก โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.หระทรวงการคลัง.ในฐานะหัวหน้าทีมดูแลภาคเหนือ และนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกอบจ.พิษณุโลกเป็นผู้ดูแลว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 เขตเลือกตั้งของพิษณุโลก