มทบ. 39 เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ส้มตำรสเด็ด เริ่มต้นกล่องละ 10 บาท ช่วยเหลือกำลังพล
วันที่ 11 ม.ค.66 ที่บริเวณหน้าร้านกาแฟ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 (มทบ.39) ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก พล.ต.กฤษณะ ภู่ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 ได้มีนโยบายในการช่วยเหลือกำลังพลทั้งนายทหารสัญญาบัตร และชั้นประทวนและประชาชนในค่ายทหารและพื้นที่รอบค่าย ได้มีอาหารคุณภาพดีบริโภค และปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง ตลอดทั้งประหยัดเวลาและค่าจ่ายในราคาถูกเพียงราคากล่องละ 10 บาท เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายลดค่าครองชีพ ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย สร้างความรักความสามัคคีและความเข้มแข็งในหมู่คณะอีกด้วย
พล.ต.กฤษณะ ภู่ทอง ผู้บัญชาการกองบัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 39 กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของ ผู้บัญชาการ มทบ.39 มานานหลายปีแล้ว หลังจากตนมารับตำแหน่ง ได้ปรับปรุงจากเป็นข้าวราดแกง ก่อนเปลี่ยนมาเป็นอาหารตามสั่งจะได้ไม่จำเจ เพื่อให้ผู้รับประทานสามารถสั่งตามที่ชอบได้ ปรุงสดใหม่ร้อนๆ เพราะตนให้ความสำคัญของกำลังพล ไม่ว่าจะชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน สำหรับร้านข้าวตามสั่ง มทบ.39 จำหน่ายกล่องละ 10 บาท และเมนูส้มตำ เริ่มต้นราคา 10 บาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา 09.00 -14.00 น.ทุกวันจันทร์-ศุกร์
“เพื่อลดเรื่องค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายแต่ละวัน จึงจัดทำโครงการอาหารกลางวันให้กับกำลังพล ซึ่งเกินคุ้มกับราคาที่จ่ายไป ตลอดทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหาร ลดค่าใช้จ่ายในเรื่องน้ำมันยานพาหนะ ในการเดินทางออกไปกินข้างนอก ทำให้เสียเวลาเพิ่มไปอีก ทาง มทบ.39 ได้จัดทำอาหารมื้อกลางวันไว้บริการกำลังพล จำนวน 200 กล่องเป็นอย่างน้อย ซึ่งพอจะมีกำไรอยู่บ้างเล็กน้อย ทำให้สามารถประกอบทำอาหารขายได้ในแต่ละวัน ” พล.ต.กฤษณะ กล่าว
สำหรับอาหารมีให้เลือก 5-6 อย่าง และยังมีขนมหวานเพิ่มให้อีก ซึ่งเกินคุ้มกับราคา 10 บาท ทหารแต่ละนายสามารถขอเพิ่มได้ กินจนอิ่มทุกมื้อกลางวัน ถ้าเงินที่เก็บจากกำลังพลคนละ 10 บาท ไม่พอใช้ในครั้งต่อไป ทาง ผบ.มทบ.39 ได้สนับสนุนเงินอีกส่วนหนึ่ง เพื่อให้กำลังพลกินดีมีสุขภาพที่แข็งแรง อาหารมีคุณภาพ ครบหลักโภชนาการ 5 หมู่ นอกจากนั้นยังสามารถซื้อใส่ถุง 10 บาท เอาไปทานที่บ้านในมื้อเย็นได้อีกด้วย ส่วนวัสดุที่นำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะพืชผักที่นำมาใช้นั้น ส่วนมากจะสั่งซื้อจากหน่วยทหาร ภายในค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งทางกองร้อย กองพัน มีโครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้อยู่แล้ว เพื่อนำมาประกอบอาหารทุกครั้ง เพราะเป็นพืชผักในโครงการ “ตามรอยเท้าพ่อ” เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมี ทำให้ปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์
สำหรับการประกอบอาหารจะมี จ่าสิบโทปิยะพงษ์ โตมี ทหารฝ่ายสูทกรรม เป็นผู้ดำเนินการประกอบอาหาร เลือกเมนูจะมาบริการให้กับกำลังพลในแต่ละวัน โดยมีทหารกองประจำการอีกหลายนายคอยช่วยเหลือเป็นลูกมือ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากผู้บังคับบัญชา ในฝีมือและรสชาติอร่อยของอาหารตลอดมา
จ่าสิบโทธรรมรัตน์ บุญจุ้ย ผู้บังคับหมู่ร้อย มทบ.39 กล่าวว่า ตนได้มาซื้ออาหารจากร้านทุกวันโดยครั้งหนึ่งซื้อราคากล่อง 10 บาท ปกติทั่วไปก็อิ่มแล้ว แต่หากไม่อิ่มสามารถซื้อ 2 กล่องเพียง 20 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาอาหารที่ร้านทั่วไป ส่วนรสชาดอร่อยดี ต้องขอขอบคุณ ผบ.มทบ.39 ที่มีโครงการดีๆแบบนี้ ได้ช่วยในการลดค่าครองชีพให้กับกำลังพลได้เป็นอย่างดี