ม.พะเยา เปิดจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตบนพื้นที่พะเยา ลดความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อนและงาน Learn & Laugh Craft Day
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา มอบหมายให้ ดร.เสมอ ถาน้อย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ศาสตราจารย์ เป็นผู้แทนในการกล่าวเปิด โครงการการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตบนพื้นที่พะเยาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อน และงาน Learn & Laugh Craft Day ณ ลานเอนกประสงค์ศูนย์ OTOP สวนสมเด็จย่าเทศบาลเมืองพะเยา
โดยดร.ผณินทรา ธีรานนท์ ผู้ช่วยอธิการบดี รองศาสตราจารย์ กล่าวรายงาน และได้รับเกียรติจาก นายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และนางสุมิตรา กัณฑมิตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพะเยา ในการกล่าวให้โอวาท พร้อมกับจัดเวทีเสวานาและเปลี่ยนเรียนรู้ ในหัวข้อ “เหลื่อมล้ำทำอย่างไรในจังหวัดพะเยา” จากกลุ่มเครือข่ายผู้สนับสนุน ทั้งมหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา เทศบาลเมืองพะเยา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กลุ่มพัฒนาการศึกษา ศึกษาธิการจังหวัดพะเยา สถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยพะเยา สำนักงาน กศน. จังหวัดพะเยา ชมรมผู้ปกครองออทิสติกจังหวัดพะเยา
โครงการการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตบนพื้นที่พะเยาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อน โดยได้ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ เพราะเรียนรู้คือรากฐานของการพัฒนาคนและพัฒนาเมืองพะเยา แต่การเรียนรู้ไม่ครอบคลุมทั้งจังหวัดพะเยา โดยผู้ที่ยังเข้าถึงได้น้อยมากคือกลุ่มคนพิการ ผู้ได้โอกาส จากการลงพื้นที่ยังคงพบว่ามีเด็กและเยาวชนจำนวนหนึ่งมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยพะเยา เทศบาลเมืองพะเยา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา จึงผนึกกำลังกันร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา สร้างภาคีเครือข่ายเพิ่มในการที่จะจัดทำ Big Data เด็กเสี่ยงที่หลุดออกจากระบบการเรียน
ภาคีเครือข่ายให้เข้ามาช่วยเราเพิ่ม ได้แก่จังหวัดพะเยา ศึกษาธิการจังหวัดพะเยา การศึกษาพิเศษจังหวัดพะเยา หลังจากการลงพื้นที่พบเด็กเสียงออกนอกระบบ จำนวน ๑,๓๐๐ คน จากฐานข้อมูลนี้ การสร้างโมเดลการเรียนรู้สำหรับเด็กเสี่ยง ผู้พิการ ชนเผ่า ยังเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของโครงการเพื่อนำเด็กกลุ่มนี้ มาเรียนบน Learning Space เก็บหน่วยกิต มหาวิทยาลัยพะเยาผสมกับ Design Thinking จะพบโมเดลการเรียนรู้ที่เหมาะกับ คนพิการ เด็กชนเผ่า เพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่ซ้ำซ้อน ดึงศักยภาพคน ให้มีคนมีรายได้ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ และเชื่อมั่นว่าสามารถจะทำให้เกิดการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อนได้อย่างตรงเป้าหมายและยังยืน