พิษณุโลก แข่งเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน จัดงานทั้งกลางวัน-กลางคืน 16-18 ก.ย.นี้
วันที่ 7 กันยายน 2565 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมจุฬามณี 1 สำนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก นางวิเชียร น้อยน้ำใส ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลวัดพริก อำเภอเมืองพิษณุโลก แถลงข่าวการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 256 กำหนดจัดขึ้นบริเวณแม่น้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ระหว่างวันที่ 17 -18 กันยายน 2565
สำหรับจังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนล่าง มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้หลายรูปแบบ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีงานประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญและมีชื่อเสียงสืบต่อกันมาแต่ครั้งอดีต ได้แก่ การแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจัดการแข่งขันสืบทอดกันมาไม่น้อยกว่า 50 ปี
ในอดีตมีการแข่งขันเรือยาวกันหลายสนาม ได้แก่ สนามหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร สนามหน้าวัดท่ามะปราง สนามหน้าวัดจันทร์ตะวันออก สนามหน้าวัดพันปี สนามหน้าวัดบางทราย เป็นต้น โดยเริ่มต้นมาจากการแข่งขันในระดับท้องถิ่นที่นําเรือมาแข่งขัน กันเองและค่อยๆ พัฒนาจากระดับท้องถิ่นเป็นระดับจังหวัด
จนปัจจุบัน เป็นงานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานในระดับประเทศ โดยมีเรือเข้าร่วมการแข่งขันจากทั่วทุกสารทิศที่มาแข่งขันประลองความเร็วแห่งสายน้ำ น่านและเป็นสนามการแข่งขันที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย
พิธีเปิด มีการแสดงจากสภาวัฒนธรรมเทศบาลนครพิษณุโลก ขบวนแห่อัญเชิญถ้วยพระราชทานทางบก และขบวนเรืออัญเชิญถ้วยพระราชทานทางน้ำอันงดงามสีสันบนสายน้ำน่าน ขบวนแห่ผ้าห่มพระพุทธชินราช และขบวนแห่ผ้าป่าหัวเรือ ตลอดจนพิธีทอดผ้าป่าหัวเรือ โดยชาวบ้านท่าโรงและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำน่าน ซึ่งเป็นจุดกำเนิด การแข่งเรือยาวหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวที่สนใจ ได้ไปเที่ยวงานประเพณีแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ มีความสนุกสนาน ท้าทายชิงความเป็นเจ้าแห่งสายน้ำน่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร นอกจากนี้ปีนี้ทางเทศบาลนครพิษณุโลก และมีการจัดงานวิถีแห่งสายน้ำในภาคกลางคืนอีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมทั้งการแสดงภาพยนตร์ การรำวงย้อนยุค เป็นต้น
สำหรับประเภทของการแข่งขันเรือยาวจัดให้มีการแข่งขัน 9 ประเภท คือ 1 เรือยาวใหญ่ประเภท ก. (ฝีพายตั้งแต่ 41 คน ไม่เกิน 55 คน)- ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว พร้อมรางวัลเงินสด 50,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
2.เรือยาวใหญ่พื้นบ้าน (ฝีพายตั้งแต่ 41 คน ไม่เกิน 55 คน )ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พร้อมรางวัลเงินสด 30,000 บาทและพระพุทธชินราชบูชา
3.เรือยาวกลาง ประเภท ก. ฝีพายตั้งแต่ 31 ไม่เกิน 40 คน)- ชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 25,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
4.เรือยาวเล็ก ประเภท ก. ฝีพายไม่เกิน 30 คน) ชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีกรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี พร้อมรางวัลเงินสด 20,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
5.เรือยาวเล็ก ประเภท ก.2 (ฝีพายไม่เกิน 30 คน) ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ พร้อมรางวัลเงินสด 10,000 บาท
6.เรือจิ๋ว (ฝีพายไม่เกิน 12 คน) – ชิงรางวัลถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พร้อมรางวัลเงินสด 10,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
7.เรือท้องถิ่น (ฝีพายไม่เกิน 3 คน) ชิงรางวัลถ้วยเกียรติยศ พร้อมรางวัลเงินสด 5,000 บาท
8.เรือสิงห์สองแคว 7 ฝีพาย ประเภทเชื่อมความสามัคคี ระหว่างท้องถิ่นชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญาพร้อมรางวัลเงินสด 8,000 บาท และ พระพุทธชินราชบูชา
9.เรือยาวเล็ก ข ภายในจังหวัดพิษณุโลก (ฝีพายไม่เกิน 30 คน) – ชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทรเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาพร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท