ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายก อบต. พิจิตร เรียกรับทรัพย์สิน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการต่อสัญญาจ้าง
วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 แถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต โดยเปิดเผยว่าปัจจุบันอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องในเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ดำเนินการไต่สวน จำนวน 1 เรื่อง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
กรณีกล่าวหา นายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร กับพวก เรียกรับทรัพย์สิน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการต่อสัญญาจ้าง บังคับให้บุคคลอื่นลงชื่อในหลักฐานการขอลาออก เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2555 (เรียกรับเงินโบนัส)
จากกรณีการทุจริตดังกล่าว พบพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ดังนี้
นายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ ได้ใช้หน้าที่และอำนาจต่างกรรมต่างวาระเรียกและรับเงินจากพนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา แล้วแต่กรณี จำนวน 17 ราย ๆ ละ 10,000 – 40,000 บาท แล้วแต่กรณี เพื่อแลกเปลี่ยนกับการต่อสัญญาจ้าง นอกจากนี้ ยังได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่างกรรมต่างวาระโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
โดยได้ทำการไม่ต่อสัญญาจ้างให้แก่พนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา จำนวน 4 ราย และยังได้ใช้หน้าที่และอำนาจโดยมิชอบบังคับให้พนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนาที่สัญญาจ้างครบกำหนดระยะเวลาการจ้าง ในวันที่ 30 กันยายน 2555 ซึ่งไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง ลงลายมือชื่อในหนังสือขอลาออกของพนักงานจ้าง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษประจำปีงบประมาณ (เงินโบนัส) และเมื่อได้หนังสือขอลาออกของพนักงานจ้างมาแล้ว ได้นำไปดำเนินการปลอมแปลงเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้
การกระทำของนายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 264 วรรคสอง ประกอบมาตรา 91 และมีมูลความผิด ฐานกระทําการฝาฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ปัจจุบันอัยการสูงสุดได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินคดีอาญาฟ้องนายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ และสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ได้แจ้งให้นายประทีป หรืออนวัช เนตรระกาศ ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 แล้ว
☆การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด