“จุติ”โต้ฝ่ายค้าน ลากไส้เหลือบการเคหะฯ เกือบ 20 ปี กินหัวคิวทั้งก่อสร้าง ขายที่ดิน เอานอมินีมาเช่าห้องราคา 920 บาท ไปปล่อยให้คนจนเช่า 2,500 -3,400 บาท
วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ชี้แจงกรณี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องการทุจริตในการเคหะแห่งชาติ (กคช.)ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายจุติ กล่าวมีข้อความบางตอนว่า
“ท่านยังกล่าวหาผมอีกว่าถมดินพร้อมกันเลย วันนี้ มีการถมดินแยกออกจากกัน นี่คือสันดานของผู้รับเหมาบางคนที่ให้ข้อมูลผิดๆ การเคหะฯ ทำอย่างนี้มาแล้ว เป็นเวลาเกือบ 20 ปี หากินกับโครงการชั่วๆ แบบนี้เกือบ 20 ปี ผมสามารถมีรูปถ่ายท่านเห็นได้ว่าที่ทำมาแล้ว มันล้มเหลว มันเสียหายกับการเคหะฯ วันนี้ มีคำยืนยันจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ยืนยันว่า สิ่งที่การเคหะฯ ทำนั้น เป็นสิ่งใหม่ เป็นสิ่งที่เร่งการก่อสร้างบ้าน เพื่อให้คนจนได้มีบ้านอยู่ ได้เร็วขึ้น เวลาไม่คอยใคร ดังนั้น การทำใหม่ เป็นสิ่งใหม่ที่ทำ ไม่เหมือนกับ turn key เมื่อก่อนนั้น ที่ turn key แล้วกินหัวคิว ทั้งขายที่ดิน กินหัวคิวทั้งก่อสร้าง
ไม่มีครับ วันนี้การเคหะฯ ไม่เคยขายที่ดินแม้แต่ตารางวาเดียว การเคหะฯ สร้างบ้านให้เช่า ทรัพย์สินยังตกเป็นของการเคหะฯ อยู่ คนไทยมีรายได้น้อยสามารถเช่าบ้านได้ จาก การเคหะฯ จนตาย ราคาเช่าวันนี้ มีตั้งแต่ 999 บาทต่อเดือน 1,500 บาทต่อเดือน 2,500 บาทต่อเดือน 3,500 บาทต่อเดือน แล้วแต่ขนาดของครอบครัว แต่ทั้งหมดถูกกำหนดโดยต้องถูกกว่าราคาเช่าของภาคเอกชน 40 % ท่านนายกรัฐมนตรีเคยถามผมว่า ทำไมไม่ไปชวนเอกชนมาสร้างเยอะๆ ให้ได้เป็นล้านหลังเลย คนจนจะได้มีบ้านอยู่ ไม่ใช่ผมไม่ทำครับ ผมมีหลักฐานว่าผมเชิญเอกชนประชุมมาหลายสมาคม แต่บอกว่าไม่สนใจเพราะสิ่งที่คุณสร้างนั้น คุณบังคับไว้ว่า ห้ามปล่อยค่าเช่าเกินกว่าที่รัฐกำหนด กำไรเค้ามีไม่ถึง 5% เป็นความเสี่ยงอย่างสูง เค้าไม่ทำ แล้วเมื่อคืนท่านเอาตัวเลขมาจากไหนไม่ทราบ บริษัทนี้ไปทำไรถึง 13% ซึ่งไม่จริง เพราะเอกสารก็ยืนยันว่า เราไม่สามารถทำไรเกิน 5 % เพราะถ้าเกิน 5 % แล้ว คนมีรายได้น้อย คนจน จะไม่สามารถมีบ้านเช่า ที่อยู่ในราคานี้ได้
ดังนั้น สิ่งที่การเคหะฯ ทำนั้น ทำตามมาตรฐานราคากลางของราคาดินแต่ละจังหวัดตามมาตรฐานของกรมบัญชีกลาง ไม่คิดกันเอง ไม่ให้แพงกว่านั้นครับ ฉะนั้น บอกท่านได้เลยว่าที่แยกกันนั้น เพราะว่าทำไม่เหมือนเดิม ของเดิมมันทำแล้วติดคุก ครับ 40 กว่าปี 30 ปี 20 ปี ไม่เอาแล้ว เอาประโยชน์ให้กับชาวบ้าน นอกจากนั้นแล้ว ท่านบอกว่าผมปล่อยให้มีการวางแผนตั้ง 2 บริษัท ตั้งบริษัทใหม่เพื่อฆ่าบริษัทเก่า โยกย้ายค่ายเทสมบัติของชาติ ผมก็บอกว่าคนที่ให้ข้อมูลท่านนั้นเป็นเท็จครับ วันนี้ ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา เพราะบริษัทเซมโก้นั้น เป็นบริษัทลูกเดิมที่ดูแลอาคารเช่าเหมา 300,000 ครอบครัว ยังไงก็ปิดไม่ได้ ยุบไม่ได้ คนที่ให้ข้อมูลท่าน ให้ข้อมูลผิด แล้ววันนี้บริษัทใหม่ที่สร้างขึ้นมาก็เพื่อสร้างให้ราคาถูก สร้างให้เร็วขึ้น หาต้นทุนที่ถูก สำคัญที่สุดที่คิดนอกกรอบ
วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาทางการเงินระดับประเทศ ระดับโลก เพราะงบประมาณมีจำกัด เราอยากจะได้สวัสดิการถ้วนหน้า เรามีปัญหาเรื่องข้อจำกัดของหนี้สาธารณะ การเคหะฯ นั่งรองบประมาณของรัฐบาลเพื่อสร้างบ้านคนจนทุกปีไม่ได้ครับ ท่านทราบไหมครับว่า โควิด – 19 แล้วคนจนเพิ่มขึ้น 18 % ตามการประเมินของ IMF เพราะคนตกงาน ปิดประเทศ 2 ปี เราจึงเปลี่ยนว่า เลิกขายบ้าน คนไม่มีเงินดาวน์บ้านแล้ว คนไม่มีเงินออมแล้ว ให้เข้ามาเช่าเท่าไหร่ก็ได้ เช่าถูกๆ อยู่ได้ตลอดชีวิต มีที่คุ้มหัวตลอดชีวิต ถึงแม้ไม่เป็นกรรมสิทธ์ ก็ไม่ถูกไล่ จะอายุ 80 ปี 90 ปี ได้เลย ซึ่งทำแล้ว 10,000 ห้อง ห้องที่เหลือที่ขายไม่ได้ เอามาแบ่งทำให้แล้ว ค่าเช่าเดือนละ 999 บาท จำนวน 10,000 ห้องทั่วประเทศ
วันนี้มีห้องที่สร้างก่อนผมมา สร้างแล้วเหลือ ขายไม่ได้ ไปดูว่าห้องที่สร้าง แต่ละห้องสร้างมากี่ปี ไม่น่าเชื่อว่า 10 ปี ยังขายห้องไม่ได้ และเก็บห้องไว้ทำไม ก็เก็บห้องไว้บางคน บางส่วน เก็บไว้ทุจริต แอบปล่อยเช่าเอง เมื่อวานนี้ ผมเข้าใจ จิตวิญญาณของท่านผู้ทรงเกียรติ ว่าท่านเกิด โต ที่นั่น ท่านถูกหักหัวคิว ถูกเอาเปรียบ ถูกเช่าช่วงตลอดเวลา คือส่งที่ผมกำลังจะแก้ เหมือนกับที่ท่านแก้ เราคิดเหมือนกัน แต่ท่านกรุณาเข้าใจผมว่าสิ่งที่ผมต้องทำนั้น ต้องต่อสู้กับระบบอุปถัมภ์ ระบบผูกขาดหากินกันมานาน อยากจะให้สภาได้ทราบว่าคณะกรรมการชุดนี้เหนื่อยมาก มีที่ไหนครับมาแล้ว อาคารเช่าทรัพย์สินของการเคหะฯ ปล่อยให้ค้างค่าเช่า 13 ปี เก็บเงินไม่ได้แม้แต่เดือนเดียว พวกผมไม่ยอมนะครับ 13 ปี 150 กว่างวด เป็นไปได้อย่างไร นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อาคารเช่าเหมา เมื่อ 16 ปีที่แล้ว เอาเงินภาษีที่ท่านบอกว่าผลาญภาษี ผมไม่เคยเอาเงินภาษีมาแบ่ง สร้างบ้านครับ
ผมคิดนอกกรอบว่าทำยังไงบริษัทลูกที่สร้างใหม่ กู้เงินจากตลาดทุนได้ไหม ไม่ต้องรองบประมาณจากรัฐบาลได้ไหม ไม่ต้องไปกู้เพื่อเป็นภาระหนี้สาธารณะได้ไหม นวัตกรรมทางการเงินวันนี้ ทำได้ครับ ใจกว้างหน่อย ทำได้ครับ คนจนจะมีโอกาสลืมตาอ้าปาก มีบ้านที่อยู่ราคาถูก ดังนั้น นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำ ขอให้ท่านเห็นใจการเคหะฯ ด้วยว่า เราทำให้คนจนได้มีบ้านอยู่
วันนี้ที่ผมบอกว่า 16 ปี ที่แล้วเอาเงินภาษีของรัฐ 6,000 ล้านบาท ไปสร้างที่อยู่อาศัยแล้วก็บอกว่าการเคหะฯ ไม่มีความสามารถบริหาร ให้บริษัทเช่าช่วง เช่าเหมา ไปเลย 30,000 ห้อง เช่าไปราคา 920 บาทต่อเดือน แล้วไปปล่อย ให้ประชาชนตาดำๆ ที่ของท่านเรียกว่าจน กู้มาจ่ายค่าเช่าบ้าน เดือนละราคา 2,500 บาทบ้าง 3,400 บาทบ้าง ใบเสร็จผมมีหมด เมื่อเขาทำผิดเงื่อนไข เมื่อหมดสัญญา แล้วเราก็ขอคืน เพื่อให้การเคหะฯ นั้นมาทำเอง
” 17 ปี ที่บริษัทเอกชน หากินกับกับโครงการนี้ จับเสือมือเปล่าไม่ต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียว มีส่วนต่างได้กำไรไป 9,180 ล้านบาท แล้ววันนี้ รัฐบาลชุดนี้ จะเอาเงิน 9,180 ล้านบาท มาคืนเฉลี่ยให้กับชาวบ้านที่ไม่มีรายได้ในช่วงเศรษฐกิจอย่างนี้ แล้วพวกผมผิดตรงไหนที่ทำแบบนี้ แล้ววันนี้ ก็ต้องบอกตรงๆ ว่า ผมก็ฟ้องสภาครับ ฟ้องแล้ว 36 คดี แล้วก็ฟ้องสภาด้วย ไม่รู้ว่าใหญ่กันมาจากไหน หมดสัญญาแล้วก็ไม่ยอมออก ฟ้องไล่ก็ไม่ไป ค่าเช่าก็ไม่จ่าย เก็บเงินค่าเช่าจากชาวบ้านแล้ว ก็ไม่จ่ายค่าเช่าให้การเคหะฯ อีก เป็นไปได้ยังไง บ้านเมืองขนาดนี้ เราทำ เราสู้ ขอให้เห็นใจว่าเราทำจริงๆ “นายจุติ กล่าว