บ้านกร่าง “ไก่โห่” แจกก่อน “คืนหมาหอน”เลือกตั้งนายก อบต.ทีมสืบสวน กกต.เกาะติดเป้าหมาย (คลิป)

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการหาเสียงผู้สมัครนายก อบต.บ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เรื่มร้อนแรงดุเดือดขึ้นตามลำดับ เมื่อมีอดีตสมาชิก อบต.บ้านกร่าง ซึ่งเป็นหัวคะแนนของผู้สมัครนายก อบต.คนหนึ่ง ได้ปล่อยเงินซื้อเสียงในพื้นที่หมู่ที่ 4 ราคาหัวละ 500 บาท ซึ่งเป็นการออกก่อนคืนหมาหอน เนื่องจากเกรงว่าสำนักงานคณะกรรมการ กกต.ประจำจังหวัดพิษณุโลก ได้จัดส่งทีมสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ ติดตามประกบหัวคะแนนอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้มีผู้แจ้งเบาะแสรายชื่อบุคคล ไปยังสำนักงานคณะกรรมการ กกต.ประจำจังหวัดพิษณุโลก

ข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวน กกต.พิษณุโลกได้ลงพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หมู่ที่ 1,5,6,7,9,11,12 โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 5,7,9 เป็นหมู่ใหญ่มีประชากรนับ 1,000 คน และมีการแข่งขันกันสูง ส่วนหนึ่งมีสมาชิก อบต.เป็นหัวคะแนนจดรายชื่อไปก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ทีมผู้สื่อข่าวประสานไปยัง กกต.เพื่อลงปฏิบัติในการดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างทันท่วงที

พ.ต.ท.วัชรินทร์ พิมพ์กะภีร์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(ผอ.กกต.) ประจำจังหวัดพิษณุโลก
กล่าวว่า คืนหมาหอนคือคืนสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เราก็มีเจ้าหน้าที่ลงไปเพื่อการป้องกันปราบปรามตามจุดต่างๆที่เรามีข้อมูลได้มาอาจจะมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเป็นข่าวเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเราก็จะดำเนินการการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีหลายรูปแบบปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆเราได้นำมาใช้ด้วยกล้อง CCTV วงจรปิดการเคลื่อนไหวต่างๆ ขอความร่วมมือทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนติดตามทางลับอยู่

“เจ้าหน้าที่สืบสวนทำหน้าที่ทั้งเคลื่อนที่เร็วทั้งสืบสวนไปด้วย เพราะว่าเป็นการเลือกตั้งเพียงแห่งเดียว.ณ วันนั้น ในจังหวัดเรา ซึ่งมีที่เดียวไม่เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เราจึงส่งชุดลงไปเลย” ผอ.กกต.พิษณุโลก กล่าว

สำหรับความผิดการซื้อเสียง มีความผิดและต้องรับโทษทางกฎหมาย กล่าวคือ เมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวคะแนนนำเงินมาแจกให้แก่ท่านเพื่อให้ท่านลงคะแนนให้แก่ ผู้ที่แจกเงินนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือหัวคะแนนนั้นก็จะมีความผิด และต้องรับโทษตามกฎหมาย คือ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี