พิษณุโลก “จุติ”ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี‘บิ๊กโจ๊ก’ จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ พัวพัน จนท.รัฐ มีผู้ใช้บริการ 11 ราย

วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)และคณะผู้บริหาร เดินทางจาก กทม.โดยเครื่องบินไปยังห้องคอนเวนชั่นฮอลโรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พิษณุโลก เพื่อรับฟังการบรรยายหัวข้อ“สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย” และ รมว.พม.ได้เปิดโครงการพัฒนาคนทุกช่วงวัยในจังหวัดพิษณุโลกอย่างมีคุณภาพฯ ครอบครัววิถีใหม่สู่สังคมเข้มแข็ง พร้อมกับมอบเงินสงเคราะห์รายบุคคลจากกองทุนคุ้มครองเด็ก

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. กล่าวว่า งานวันนี้เป้าหมายคือ ต้องการลดความรุนแรงของครอบครัว และช่วยเหลือประชาชนผู้เปาะบางครบวงจร พม.จะทำทุกมติ โดยบูรณาการทุกหน่วยงาน อาทิ ร่วมกับ จนท.ตำรวจช่วยลดความรุนแรงของครอบครัว จะต้องสร้างคนให้มีทักษะรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

นายจุติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณี ‘บิ๊กโจ๊ก’ จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่นำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ 5 ราย โดยมีผู้ใช้บริการ 11 รายซึ่งมีทั้งประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ในสุราษฎร์ธานีอายุ 79 ปี และมีรองประธานสภา อบต., ครู, หมอ ทหาร และลูกอดีตนักการเมืองใช้บริการทางเพศ ปัญหาก็คือ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนซึ่งต้องทำหน้าที่ แต่กลับละเว้น แถมยังโทรสั่งเกลี้ยกล่อมเด็กเหยื่อคดีค้ามนุษย์ ช่วยผู้ต้องหาอีกด้วย ทั้งๆที่ควร ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่บ้านเด็ก (บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี) อ้างถึงการใช้ไม้ทุบตีเด็กเพื่อให้เด็กช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ใช้บริการ

รมว.พม. กล่าวว่า สำหรับกรณีบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น ปลัด พม. ได้สั่งให้ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนไปแล้ว จะมีการดำเนินการอยู่ 2 ส่วน คือ สืบหาข้อเท็จจริง และ เอาผู้ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และรอผู้ที่ไปสอบสวนข้อเท็จจริง รายงานไปยัง ปลัด พม. เพราะว่า อำนาจในการย้าย รองอธิบดี (คนที่เป็นข่าว) เป็นอำนาจของปลัดกระทรวง พม.

“ขอย้ำจะยึดข้อเท็จจริง และความถูกต้อง แต่จะต้องดำเนินการ ไม่เว้นว่าจะเป็นใคร เพียงแต่ ให้ความเป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนมั่นใจในระบบ และมั่นใจในกระบวนการของ พม.ณ.วันนี้ จะต้องหาข้อเท็จจริงก่อน ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมสอบสวน เมื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ปลัด พม.จึงค่อยดำเนินการต่ออีกครั้ง เนื่องจาก การย้ายรองอธิบดี เป็นอำนาจของ ปลัด พม. ส่วนการย้ายเจ้าหน้าที่ เป็นอำนาจของ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ส่วนเด็กที่ถูกละเมิด ก็ได้รับความคุ้มครอง ไม่ให้หวาดกลัว”นายจุติ กล่าว

รมว.พม.กล่าวด้วยว่า ส่วนเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกี่คนนั้น ไม่ยืนยัน จะต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ตนได้เร่งรัดให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด เพื่อให้คำตอบแก่ประชาชน ไม่มีการถ่วงเวลา ปกปิด บิดเบือน ถูกต้องยึดหลักกฎหมาย ขอให้ทุกคนมั่นใจ แต่ไม่รับปากว่า แล้วเสร็จกี่วัน หาก วันพรุ่งนี้เสร็จก็ดี จะต้องเร็วที่สุดจะบอกว่า เด้ง เจ้าหน้าที่ พม. เข้ากรุ ก่อนนั้น ไม่ได้ เนื่องจาก ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม ทั้งเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย หรือ ระดับบริหาร ข้อเท็จจริงจะบ่งชี้ออกมาเอง เวลานี้ ขอให้ข้อเท็จจริงนิ่งก่อน

“ในมุมมองของเรื่องการค้ามนุษย์นั้น รัฐบาลประยุทธ์ได้ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และดำเนินการด้วยความยากลำบาก เพราะมีประเด็นต่างประเทศอีกด้วย มีความละเอียดอ่อนมาก ฉะนั้นการพูดหรือโจมตี แบบสะใจ จะต้องอยู่กับข้อเท็จจริง เพราะจะต้องทำงานกับประเทศสหรัฐอเมริกา ในกรณีเรื่อง แรงงานการค้ามนุษย์ ฉะนั้นมีหลายมิติ เชื่อมโยงอีกมาก จะต้องรักษาประโยชน์ประเทศไทย อย่าให้บอบช้ำ กรณีสุราษฎร์ฯนั้น จะต้องจบโดยเร็ว ย้ำว่า ถ้ามีข้อเท็จจริงแล้ว จะรีบแจ้งให้สื่อมวลชนทราบทันที”นายจุติ กล่าว