อบต.-เทศบาล “ไกลปืนเที่ยง”
โดย บุญถึง ลือชา
การออกไปตรวจงานกับองค์กรภาคประชาชน ทำให้มองเห็นปัญหาการพัฒนาชนบทในหลาย ๆ รูปแบบ ขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
โดยเฉพาะท้องถิ่นที่ห่างไกลตัวจังหวัดออกไป เช่นที่อำเภออุ้มผาง พบพระ แม่ระมาด หรือท่าสองยาง
อบต. เทศบาล ถือได้ว่าเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ใกล้ชิดกับประชาชน สร้างความเจริญให้กับพื้นที่ชนบทได้มากที่สุด
ยกเว้นโครงการใหญ่ ๆ งบประมาณมากมายมหาศาล ถึงจะยกให้หน่วยงานที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เช่นแขวงการทาง ทางหลวงชนบท หรือชลประทานจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ เพราะ องค์กรส่วนท้องถิ่นมีความเชี่ยวชาญอย่างจำกัด บุคลากรยังไม่เพียงพอ การเรียนรู้เกี่ยวกับระเบียบกฎหมายนั้น ยังไม่ลงลึกอย่างถึงที่สุด
ดังนั้นเราจึงมักจะได้เห็นข่าวอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รับชั่นโครงการพัฒนาต่าง ๆ ขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ทั้งที่โดยเจตนาและไม่เจตนา
เจ้าหน้าที่ราชการท้องถิ่นเอง ไม่ว่าฝ่ายช่าง การเงิน หรือสำนักปลัด ต่างก็ตั้งใจทำงานกันอย่างสุจริตเป็นที่ตั้ง ไม่มีใครคิดวาดหวังลม ๆแล้ง ๆหรอกว่า จะมาสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นมหาเศรษฐีด้วยการทุจริตคอร์รับชั่นเงินภาษีราษฎร ในองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
แต่ที่เป็นข่าวก็มักจะเกิดจากฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพราะส่วนใหญ่ล้วนผ่านการเลือกตั้งมาด้วยการลงทุนแทบทั้งสิ้น
นั่นคือการซื้อคะแนนเสียงจากประชาชน ปัจจุบันมันรุกลามแพร่สะพัดไปทั้งแผ่นดิน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ยังไม่สามารถคิดค้นหาวิธีการที่จะขจัดเสี้ยนหนามเหล่านี้ ให้พ้นไปจากแผ่นดินไทยได้
นายกฯท้องถิ่นสายพันธุ์เลวร้าย จึงพยายามที่จะคิดทำโครงการแสวงหากำไรเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าถนนหนทาง แหล่งกักเก็บน้ำ ขุดเจาะบ่อบาดาล แม้กระทั่งการฝึกอบรม ถ้าฉกฉวยการคอร์รับชั่นได้ ก็จะต้องรีบกระทำในทันที เพื่อเรียกเงินที่ใช้ลงทุนให้กลับคืนมาเข้ากระเป๋า
นี่คือวังวนวงจรอุบาทว์ ที่ภาครัฐจะต้องคิดหาวิธีการที่จะขจัดเสี้ยนเหล่านี้ ให้หมดไปจากแผ่นดินไทยโดยเร็ว
ส่วนข้าราชการท้องถิ่นก็คือลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ดังนั้นข้าราชการในสำนักงานเหล่านี้ จึงเต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจ กับการบริหารงานอันไม่เข้าท่าของนายกท้องถิ่น ทำไมทฤษฎีที่ร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัย ถึงไม่เหมือนกับเหตุการณ์จริงที่เผชิญ
วัน ๆ รับรู้แต่เรื่องระบบเงินทอน เงินเปอร์เซ็นต์ที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทั้งที่ทุกคนที่อาสาเข้ามา ต่างก็มีเงินเดือนกินกันอยู่แล้ว
แรก ๆ ก็หลงเชื่อ คิดว่าอำนาจนายกท้องถิ่นนั้น ต้องล้นฟ้าล้นดิน สามารถปกป้องคุ้มครองพวกเขาได้ ทว่าเมื่ออยู่มานานวัน จึงประจักษ์และรับรู้ว่า แท้จริงนายกฯก็คือเสือกระดาษดี ๆ นี่เอง ไม่ใช่เทวดาเหินฟ้ามาจากไหน ถึงอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายเป็นที่ตั้ง
ความถูกต้องต่างหากคือเกราะคุ้มภัยได้อย่างดี
ถึงอย่างไร ข้าราชการท้องถิ่นหลาย ๆ คน ก็ยังคงถูกหลอกให้เซ็นรับงานอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ จนถูกไล่ออกให้ออกจากราชการก็มีมาก
ระยะหลัง ๆ เมื่อองค์กรภาคประชาชนออกไปตรวจแนะนำงาน จึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แถมมีรอยยิ้มปลื้มอย่างเต็มสองข้างแก้ม ด้วยอาการปริติเป็นล้นพ้นที่ภาคประชาชนกรุณาช่วยเข้ามาเป็นก้างขวางคอ หรือมาช่วยว่ากล่าวตักเตือนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานอย่างตรงทิศตรงทาง
แถมข้าราชการบางคนยังอุตส่าห์โทรศัพท์ตามมาขอขอบคุณองค์กรภาคประชาชน ที่มาช่วยแนะนำว่ากล่าวนักการเมืองท้องถิ่น เพราะบางคนก็เข้ามาอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ ตั้งใจเพียงอย่างเดียว คือแสวงหากำไรเป็นที่ตั้ง
ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่นายกฯท้องถิ่นบางแห่ง รวมถึงสมุนรับใช้ จึงถูกศาลสั่งให้พ้นจากหน้าที่ งดไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมืองเป็นระยะเวลายาวนาน
ถึงอย่างนั้นก็ตาม การทำงานของ อบต. เทศบาลก็ยังคงดำรงความผิดพลาดไว้อย่างต่อเนื่อง อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นองค์กรที่ด้อยประสิทธิภาพมากในการทำงานพัฒนาก็ว่าได้
เพราะอายุการทำงานยังน้อย ประสบการณ์เกี่ยวกับระเบียบกฎหมายยังมีไม่มากพอ จึงมักจะเกิดอาการผิดพลาดในการทำงานอยู่เสมอ เมื่อองค์กรภาคประชาชนเข้าไปตรวจ จึงเกิดอาการเหนื่อยหน่ายในความรู้สึกไม่น้อย กับข้อผิดพลาดบกพร่องเหล่านั้นที่ปรากฏ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าคงมิใช่เจตนาที่แท้ มันก่อเกิดขึ้นก็เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่คาดคิดว่ามันจะเกิด
เรียนรู้กันต่อไปเถอะครับ ถึงอย่างไรก็ทำงานโดยประชาชนเพื่อประชาชน กาลเวลาจะช่วยพัฒนาตัวตนของท่านเอง