อุตรดิตถ์ เจ้าทุกข์แจ้งความจับพนักงานรถไฟ อ้างฝากงานเรียกรับเงินเกือบ 8 แสนบาท

1818

อุตรดิตถ์ เจ้าทุกข์แจ้งความจับพนักงานรถไฟ อ้างฝากงานเรียกรับเงินเกือบ 8 แสนบาท

วันที่ 9 พฤศจิกายน 64 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ นางกิ่งนภา  วรรณชัย  อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1402/44 หมู่ 6 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นางวาสนา  ไพเชฐศักดิ์  อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/1 หมู่ 6 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นางอัญชลี วงษ์จันทร์ อายุ 46  ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 55/6 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งยั้ง อ,ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และนายพรมมิน  ศิริสุข  อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 6 ต.ขุนฝาง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เข้าพบ ร้อยตำรวจโทหญิง (ร.ต.ท.หญิง) กรองทอง  แสงศิริ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์

เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับนายธวัชชัย วงค์ทองดี หรือเจ๋ง ตำแหน่งช่างฝีมือ 5 สังกัดแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ศูนย์ลากเลื่อนฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทยโดยกล่าวหาว่า หลอกให้โอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้นเข้าทำงานเป็นพนักงานและลูกจ้าง ในพื้นที่อุตรดิตถ์และแพร่ ตั้งแต่ 70,000 -320,000 บาท โดยไม่ต้องสอบ ผู้เสียหายรวม 4 ราย สูญเงิน รวมจำนวนทั้งสิ้น 744,000 บาท เหตุเกิดที่ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินผ่านสมุดบัญชีธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทยของนายธวัชชัยหรือเจ๋ง รวมถึงคลิปวิดีโอและคลิปเสียงการสนทนาพูดคุยระหว่างนายธวัชชัยกับผู้เสียหายทุกราย ที่กล่าวอ้างสามารถฝากเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆอาทิ เสมียนบัญชี กองการรถไฟอุตรดิตถ์, พนักงานเทคนิค4 กองการรถไฟอุตรดิตถ์, เจ้าพนักงานระดับ6 ภายในศูนย์ปฏิบัติการการเดินรถ ภาค3 จ.อุตรดิตถ์ และ ตำแหน่งเสมียนประจำสถานีรถไฟบ้านปิน ต.บ้านปิน อ.ลอง  จ.แพร่, ลงแฟลชไดร์ฟ ส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์และจะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

นางกิ่งนภา กล่าวว่า นายธวัชชัยหรือเจ๋ง หลอกลวงว่าสามารถฝากลูกสะใภ้ ให้เข้าทำงานบรรจุเป็นเสมียนบัญชี กองการรถไฟอุตรดิตถ์ ซึ่งมีตำแหน่งงานว่างอยู่ โดยไม่ต้องผ่านการสอบบรรจุตามขั้นตอนเหมือนบุคลทั่วไป จะเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 แต่จะต้องจ่ายเงินเงิน จำนวน 320,000 บาท เพื่อเป็นค่าวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งตามที่ต้องการ ได้เรียกร้องขอเงินสดเพื่อเป็นค่าวิ่งเต้น จำนวน 300,000 บาท นัดไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จากนั้นโอนเงินไปให้ครั้งแรก 300,000 บาท ที่บริเวณเค้าเตอร์ธนาคาร มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการโอนเงินไปให้ ครั้งที่สอง เรียกร้องขอเงินเพิ่มอีก จำนวน 20,000 บาท จึงโอนให้ผ่านทางตู้เอทีเอ็ม ย้ำว่าวันที่ 1 กันยายน 2564 ได้เข้าทำงานอย่างแน่นอน

จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาลูกสะใภ้ก็ยังไม่ได้เข้าทำงาน จึงเดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ เกี่ยวกับการเปิดรับบรรจุพนักงานในตำแหน่งเสมียนบัญชี ตามที่นายธวัชชัยกล่าวอ้าง รับคำตอบ จากเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ว่า ไม่มีการเปิดรับสมัครหรือสมัครสอบตำแหน่งเจ้าหน้าที่และพนักงานของการรถไฟอุตรดิตถ์ต่อมา เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ได้รับเอกสารเรื่องลงโทษไล่ นายธวัชชัย  วงค์ทองดี ตำแหน่งช่างฝีมือ 5 สังกัดแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ศูนย์ลากเลื่อนฝ่ายการช่างกล ออกจากการเป็นพนักงาน เนื่องจากขาดงาน ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ถึง 13 ตุลาคม 2564 เป็นการขาดงานเกิน 15 วัน ลงนามโดยนายสมพร บุญนวล วิศวกรผู้อำนวยการศูนย์ลากเลื่อน ปฏิบัติการแทน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย  ทำให้แน่ใจและเชื่อได้ว่าถูกนายธวัชชัย วงค์ทองดี (เจ๋ง) หลอกลวงว่าสามารถฝากลูกสะใภ้ เข้าทำงานบรรจุเป็นเสมียนบัญชี

กองการรถไฟอุตรดิตถ์ และหลอกให้โอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้น เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 320,000 บาท จึงมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายธวัชชัย (เจ๋ง) ตามกฏหมายต่อไป

ร.ต.สุวิทย์ ไพเชฐศักดิ์  สามีของนางวาสนา  ไพเชฐศักดิ์  กล่าวว่า ถูกนายธวัชชัยหรือเจ๋ง อ้างว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในกรุงเทพฯ บอกว่าสามารถช่วยน้องสาวของภรรยา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งลูกจ้างเฉพาะงานการรถไฟ(ในกรุงเทพแห่งหนึ่ง) ให้เข้าทำงานในตำแหน่งเสมียนประจำสถานีรถไฟบ้านปิน ต.บ้านปิน อ.ลอง  จ.แพร่ โดยไม่ต้องสอบ ได้ล้านเปอร์เซ็น และจะเข้าทำงานในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยขอค่าดำเนินการวิ่งเต้นเป็นเงิน 70,000 บาท นางวาสนา ผู้เป็นภรรยาจึงโอนเงินให้ไปครั้งแรก จำนวน 50,000 บาท ครั้งที่สอง เป็นเงิน
จำนวน 20,000 บาท ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อของนายธวัชชัยหรือเจ๋ง  เมื่อถึงวันเวลาดังกล่าวก็เงียบหายไปจนกระทั่งมาทราบว่า ถูกไล่ออกจากจากเป็นพนักงานรถไฟ เนื่องจากขาด

งานเกิน 15 วัน ทำให้แน่ใจว่าถูกหลอกลวงเพื่อหวังเอาเงินหรือทรัพย์สิน สืบทราบว่ามีบุคลที่ถูกหลอกลวงในทำนองเดียวกันอีกรวมเป็น 4 ราย จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอา
ผิดกับนายธวัชชัยหรือเจ๋ง ทั้งนี้ ยังพบว่ามีผู้ถูกหลอกลวงแบบเดียวกันอีกจำนวนมาก แต่ยังไม่กล้าเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากกลัวไม่ได้เงินคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าทุกข์วันนี้มีทั้งหมด 4 ราย ถูกนายธวัชชัยหรือเจ๋ง ตำแหน่งช่างฝีมือ 5 สังกัดแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ศูนย์ลากเลื่อนฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย หลอกให้โอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้นเข้าทำงานเป็นพนักงานและลูกจ้างโดยไม่ต้องสอบ ประกอบด้วย 1.นางกิ่งนภา  วรรณชัย ถูกอ้างว่าสามารถฝากลูกสะใภ้ เข้าทำงานบรรจุเป็นเสมียนบัญชี กองการรถไฟอุตรดิตถ์ โอนเงินไปรวมทั้งสิ้น 320,000 บาท, 2.นางวาสนา  ไพเชฐศักดิ์  อ้างว่าสามารถฝากน้องสาว ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างเฉพาะงานการรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ให้ได้เข้าทำงานในตำแหน่งเสมียนประจำสถานีรถไฟบ้านปิน ต.บ้านปิน อ.ลอง  จ.แพร่ โอนเงินไปเป็นจำนวน 70,000 บาท, 3.นางอัญชลี วงษ์จันทร์ จันทร์ อ้างว่าสามารถฝากลูกสาว ให้ทำงานเป็นเจ้าพนักงานระดับ 6 ภายในศูนย์ปฏิบัติการการเดินรถ ภาค3 จ.อุตรดิตถ์ โอนเงินเป็นเงินจำนวน 250,000 บาท 4.นายพรมมิน  ศิริสุข อ้างว่าสามารถฝากลูกชาย ทำงานเป็นลูกจ้างเฉพาะงานการรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สามารถช่วยเข้าทำงานเป็นพนักงานเทคนิค4 กองการรถไฟอุตรดิตถ์ โอนเงินไปให้ จำนวน 104,000 บาท รวมเงินที่เจ้าทุกข์ทั้ง 4 รายโอนเงินไปให้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 744,000 บาท

แหล่งข่าจากแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทางผู้บังคับบัญชารับทราบถึงพฤติกรรมของนายธวัชชัยหรือเจ๋ง มีการหลอกลวงเจ้าทุกข์หลายรายสามารถฝากลูกหลานเข้าทำงานในการรถไฟแห่งประเทศไทยในตำแหน่งต่างๆได้ บางรายก็มีข้อมูลส่งให้เป็นหลักฐาน บางรายก็ไม่มีหลักฐาน ระยะเวลาที่ก่อเหตุส่วนใหญ่จะตรงกับช่วงเวลาที่ไม่ได้มาทำงานหรือขาดงานเป็นเวลาหลายวัน ทางผู้บังคับบัญชาเสนอแนะให้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจ ให้เอาผิดในคดีนี้โดยตรง เนื่องจากเป็นความผิดส่วนบุคคล หากการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยคนใด ทางผู้บังคับบัญชาก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน พร้อมมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้อง เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่ม เบื้องต้นทราบว่ามีการแอบอ้างชื่อหน่วยงานของการรถไฟหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

นายธวัชชัยหรือเจ๋ง ไม่มาทำงานตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม ถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นเวลา 46 วัน คิดเป็น 28 วันทำการถือขาดงานเกิน 15 วัน โดยไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ทางหัวหน้าแขวงได้ติดต่อให้กลับเข้าทำงาน 3 ครั้ง ทั้งทางจดหมาย ทางไลน์และผ่านผู้ปกครอง เจ้าตัวก็ยังนิ่งเฉย จึงแจ้งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับทราบ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบการลาและขาดงานเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุผล จึงลงโทษด้วยการไล่ออกโดยไม่ต้องมีการสอบสวนจากการสืบทราบเชิงลึกทราบว่าเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้เกิดพฤติกรรมตามที่เจ้าทุกข์หลายรายร้องมา โดยมีเจ้าหน้าที่บางคนผสมโรงร่วมกับคนนอกเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เราคงต้อง

ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด คาดว่าน่าจะมีเจ้าทุกข์มากกว่า 10 รายขึ้นไป แหล่งข่าวจากแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์
คนเดิมกล่าว