เชียงราย ตะครุบ 2 เครือข่ายยาบ้าในเรือนจำ กว่า 2 หมื่นเม็ด (คลิป)
วันที่ 14 ก.ย.64 พ.ต.อ.ทรรศ์ธนสรณ์ จุฑารัตน์ ผกก.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนนำตัว นาย สุรชัย พรพิมลกุล อายุ 34 ปี และ นาย ศิริชัย แซ่ล่อ อายุ 36 ปี ชาว ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 22,000 เม็ด มาทำการสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาว่า นายสุรชัย ว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และมีสารเสพติดในร่างกายขณะขับขี่” ส่วนนายศิริชัย แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
โดยการจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่จัน จ.เชียงราย โดย พ.ต.ท.พันชาติ สมตัว รอง ผกก.สส.สภ.แม่จัน พ.ต.ต.อนุชาติ วงค์ปัญญา สว.สส.สภ.แม่จัน ปฏิบัติการโดย ร.ต.อ.ผดุง ท้ายเรือนคำ รอง สว.สส. สภ. แม่จัน ได้สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ บ้านสันกอง ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จึงได้ออกติดตามหาข่าว จนกระทั่งทราบว่าผู้ลำเลียงยาเสพติดจะใช้รถจักรยานยนต์ในการลำเลียงยาเสพติด จึงได้ตรวจสอบและทราบรูปพรรณผู้ขับขี่และยานพาหนะ จึงได้วางแผนทำการสักจับกุม
จนกระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.ย.64 เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าผู้ลำเลียงยาเสพติดได้เข้ามาในพื้นที่แล้ว จึงได้ดักทำการสกัดจับกุมที่บริเวณถนนสาธารณะ บ้านสันกอง ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เมื่อไปถึงจุดดังกล่าว นายสุรชัย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปซอย เจ้าหน้าที่ จึงได้ติดตามไปสกัดเอาไว้ พร้อมของกลางยาเสพติดทั้งหมดในกระสอบ วางอยู่ด้านหน้าคนขับ ส่วนนายศิริชัย ทางเจ้าหน้าที่ได้สกัดจับกุมได้ที่แยกไฟแดง บ้านสันกอง ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย
จากการสอบปากคำ นายสุรชัย ให้การว่า ยาบ้าของกลางทั้งหมดได้รับการประสานงานจากเครือข่ายของนายอาจ่า คะล่า ซึ่งรู้จักกันในเรือนจำ หลังจากพ้นโทษออกมาก็ได้ติดต่อกัน เพื่อทำการลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จากพื้นที่บ้านสันกอง ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน เพื่อไปส่งในพื้นที่ ตัว อ.แม่จัน แล้วจะมีคนมารับต่ออีกครั้ง ในส่วนของนายศิริชัย ซึ่งทำหน้าที่ขับขี่นำทาง หลังจากทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป