1051

ศาลอุทธรณ์แก้โทษ จำคุก “ดิเรก ก้อนกลีบ”อดีตผู้ว่าฯลำปาง คดีละเว้นฯ อ่างเก็บน้ำ เหลือ 3 ปี ปรับ 3 หมื่น

เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘ดิเรก ก้อนกลีบ’ อดีตผู้ว่าลำปาง ละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่เมาะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษให้จำคุก 3 กระทง  3 ปี ปรับ 30,000 บาท หลังศาลชั้นต้นลงโทษหนัก 16 ปี ‘เสริมศักดิ์ สีสันต์’ อดีตนายอำเภอ โดน 4 ปี ปรับ 4 หมื่น พวกที่เหลือลดหลั่นกันลงมา กลุ่มกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน โดนคนละ 8 ด. รอลงอาญา 1 ปี -ป.ป.ช.เห็นควรสู้ชั้นฎีกาต่อ

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2561  ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก นายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าลำปาง พร้อมพวกรวม 14 ราย ประกอบไปด้วย นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายอำเภอแม่เมาะ, นายประสาน ฝ่ายคำมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดอำเภอแม่เมาะ, นายมงคล ธงสิบเจ็ด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 17 (แม่จางตอนขุน), นายถนอม โพธิวิจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 38 (ท่าสี), นายอำนวย ศรีบุญชู เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) , นายธนชาติ มังกิตะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง, นายสว่าง จาคำมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจางเหนือ, นายพิสิฐ ทักษิณาพิมุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสัก, นายมนตรี จำปาคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กำนันตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ, นายปรีดา ผลดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ, นายคำเภา บุญมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ, นายวินัย ตันใจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ และ นายวิช อินจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง

จากกรณีละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม อ้างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษนายดิเรก และ นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ อดีตนายอำเภอแม่เมาะ ถูกตัดสินลงโทษคนละ 4 กรรมๆ และ 4 ปี รวมจำนวน 16 ปี ส่วนจำเลยอื่นถูกตัดสินโทษลดหลั่นกันลงมา เบื้องต้นจำเลยทั้งหมด ได้มีการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในช่วงเย็นวันเดียวกัน เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์และฏีกาต่อไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า   นายดิเรก ก้อนกลีบ จำเลยที่ 1 มีความผิด 3 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุก 3 ปี และปรับ 30,000 บาท

นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ จำเลยที่ 2 นายประสาน ฝ่ายคำมี จำเลยที่ 7 มีความผิดคนละ 4 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุก 4 ปี และปรับคนละ 40,000 บาท

นายถนอม โพธิ์วิจิตร จำเลยที่ 4 นายอำนวย ศรีบุญชู จำเลยที่ 5 และ นายธนชาติ มังกิตะ จำเลยที่ 6 มีความผิดคนละ 2 กระทง ลงโทษจำคุก กระทงละ 1 ปี ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวมจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท

นายสว่าง จาคำมา จำเลยที่ 8  นายพิสิฐ ทักษิณาพิมุข จำเลยที่ 9  นายมนตรี จำปาคำ จำเลยที่ 10  นายปรีดา ผลดี จำเลยที่ 11  นายคำเภา บุญมา  จำเลยที่ 12 นายวินัย ตันใจ จำเลยที่ 13  และ นายวิช อินจันทร์ จำเลยที่ 14 มีความผิดคนละ 1 กระทง ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท

นายมนตรี จำปาคำ จำเลยที่ 10  นายปรีดา ผลดี จำเลยที่ 11  นายคำเภา บุญมา  จำเลยที่ 12 นายวินัย ตันใจ จำเลยที่ 13  และ นายวิช อินจันทร์ จำเลยที่ 14  ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 8 เดือน ปรับคนละ 6,666.666 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 1ปี

“ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้”

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2564 เห็นควรที่จะฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่งก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุด เคยมีคำพิพากษาให้กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนคำสั่งไล่ออกนายวรเดช หรือดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กับพวก กรณีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 4 แห่งในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ โดยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงไม่มีอำนาจไต่สวน และชี้มูลความผิดกรณีนี้

Cr:isranews