สรรพสามิตพื้นที่อุตรดิตถ์ร่วมกับสรรพสามิตพื้นที่สุโขทัยสนธิกำลังบุกทลายแหล่งผลิตสุราเถื่อนรายใหญ่ในรอบปีกลางสวนผลไม้รอยต่ออุตรดิตถ์สุโขทัย
วันที่ 28 มีนาคม 2562 นางสุพัชรา บุญเกิดรัมย์ สรรพสามิตพื้นที่อุตรดิตถ์ รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีการลักลอบต้มกลั่นสุรา อยู่ในสวนทุเรียน ลองกองบริเวณรอยต่อ ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์กับตำบลบ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
หลังจากรับแจ้งแล้วจึงได้สั่งการให้นายสมพงษ์ กงภูธร นายนพดล หวังเจริญ หัวหน้าฝ่ายปราบปรามและเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่อุตรดิตถ์เข้าทำการสืบสวนจับกุม และได้ประสานกับนายเอกศักดิ์ เล็กมณี สรรพสามิตพื้นที่สุโขทัย พร้อมด้วยนางบุญมา ก๊วยประเสริฐ หน้าฝ่ายปราบปรามสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่จังหวัดสุโขทัย นายนิยมโหมด ศิริ สรรพสามิตพื้นที่สาขาสวรรคโลก และกำลังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดสุโขทัย จำนวน 39 นาย เข้าร่วมในการตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง บริเวณห้วยต้นจำ ซึ่งเป็นสวนลองกอง สวนทุเรียน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเดินทางโดยรถยนต์ประมาณเกือบ 30 กิโลเมตร และต้องใช้รถ จยย.เดินทางเข้าพื้นที่ไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ขึ้นเขาตลอดเป็นรอยต่อระหว่างตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ กับตำบลบ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่ไปถึงพบบริเวณที่ได้รับแจ้งเป็นสวนทุเรียนและลองกองมีชาย 2 คนกำลังต้มกลั่นสุรา เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมชายทั้งสองคนดังกล่าว
ชายทั้งสองคนได้วิ่งหลบหนีไปไม่สามารถจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบสิ่งของคือ 1 เครื่องกลั่นสุราขนาด 200 ลิตรจำนวน 3 ชุด 2 สุราแช่น้ำจุถังพลาสติกขนาด 50 ลิตรจำนวน 250 ใบ 3 สุราแช่บรรจุถังพลาสติกขนาด 30 ลิตรจำนวน 20 ใบคิดเป็นสุราแช่รวม 10,850 ลิตร 4.น้ำสุรากลั่นบรรจุถุงพลาสติกขนาด 25 ลิตรจำนวน 5 ถุงมีน้ำสรา 135 ลิตร 5. เชื้อสุรา 5 กิโลกรัม 6.เตานึ่งข้าว ขนาด 50 ลิตรจำนวน 4 ชุด 7. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Suzuki Akira จำนวน 2 คัน 8. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Lava ระบบ AIS จำนวน 1 เครื่อง 9. ถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัมจำนวน 2 ถัง พร้อมหัวแก๊ส 10. กระสอบบรรจุเสื้อผ้ากางเกงกระเป๋า 1 จำนวน 1 กระสอบซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวพบอุปกรณ์ในการผลิตสุรากลั่นเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่อุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่สุโขทัยได้ร่วมกับบันทึกภาพและทำลายอุปกรณ์ดังกล่าวในพื้นที่และบางส่วนได้ตรวจยึดนำกลับเข้ามาเพื่อประกอบรูปคดีและจะได้นำโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ไปตรวจสอบว่าเป็นของ ใคร และจะได้ดำเนินการต่อไป รวมทั้งได้แจ้งข้อ กล่าวหาว่า 1.ร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ร่วมกันมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุรา โดยไม่ได้รับอนุญาต 3. มีสุราไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรคหนึ่ง 4. ร่วมกันมีไว้หรือขายสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรคหนึ่ง 5. การขายสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรคหนึ่ง จากการตรวจสอบพบว่ามีรอบการผลิตเดือนละ 4 รอบ รอบละ 50 ถุงๆละ 1500 บาทเป็นเงิน 300,000 บาท คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐที่สูญเสียในเรื่องของภาษีอากรเดือนละ 560,000 บาทต่อเดือน ในส่วนของค่าปรับถ้ามีการติดตามตัวผู้กระทำผิดกฎหมายมาลงโทษได้จะเป็นค่าปรับ 15 เท่าจากจำนวน 560,000x 15คิดเป็น 8,400,000 บาท
ทีมข่าวนอร์ตเทิร์นนิวส์ รายงาน