ส.ค. 22, 2020

พิษณุโลก “โอละพ่อ” เด็ก นร.หญิง ป.5 ยอมรับสารภาพ ปั้นเรื่องถูกรถตู้ฉุด กลัวพ่อต่อว่าทิ้งน้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์รถตู้ฉุดนักเรียนโรงเรียนบ้านคลองเป็ด ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ที่ถูกรถตู้ฉุดแต่นักเรียนสะบัดหนีออกมาได้นั้น ภายหลังที่เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) พิษณุโลก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และชุดสืบสวน สภ.วังทอง ได้สอบสวนข้อเท็จ พบว่าเรื่องดังเด็กนักเรียนหญิงรับสารภาพสร้างเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก (ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก) และโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า กรณีเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนคลองเป็ด ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถูกรถตู้ฉุดระหว่างขี่จักรยานไปซื้อของตลาดภายในหมู่บ้าน จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับตำรวจสืบสวน สภ.วังทอง ได้ลงพื้นที่เกาะติดสืบสวนมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมพมจ.พิษณุโลก ได้ออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ  ทั้งกล้องวงจรปิด และสืบสวนค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ ตลอดจนสอบถามร่วมกัน

“จนกระทั่งน้องนักเรียนหญิงคนดังกล่าว ยอมรับความจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากเกรงว่าพ่อจะต่อว่า หลังจากให้น้องที่ไปตลาดด้วยกันและกลับบ้านเองไปก่อนหน้า  ทำให้ต้องสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อป้องกันการต่อว่า รวมทั้งกรณีที่มีข่าวว่ามีเด็กนักเรียนหญิงอีก 3 ราย นั้น จากการสอบถามกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และบุคคลในพื้นที่ยังไม่ปรากฎเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะดำเนินการทันที” พ.ต.อ.นฤชา กล่าว

ทางด้าน นายวัลลภ นาเมืองรักษ์ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พมจ.พิษณุโลก กล่าวว่า ทางพมจ.พิษณุโลก ได้ส่งทีมสหวิชาชีพ โดยการมอบหมายให้นางสาวพิชญา พงษ์ขันธ์ นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ และนายวิทวัส จันทร์ชาวนาว นักพัฒนาสังคม ร่วมกับ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก สถานีตำรวจภูธรวังทอง ที่ทำการปกครองอำเภอวังทอง และศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ( ศคม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ โรงเรียนบ้านคลองเป็ด ตำบลวังพิกุล เข้าไปติดตามเหตุการณ์กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ ผ่านมา

“เด็กนักเรียนคนดังกล่าว ได้ให้ข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้ถูกรถตู้ฉุด และไม่ได้รับบาดเจ็บตามที่เป็นข่าว เพียงแต่สร้างสถานการณ์ขึ้นมา เนื่องจากกลับบ้านผิดเวลา และไม่ดูแลน้องสาว กลัวว่าผู้ปกครองจะดุด่า สำนักงานพัฒนาสังคมฯ มีแนวทางการช่วยเหลือ โดยให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองให้ดูแลเด็ก ทางด้านร่างกาย จิตใจสังคม อารมณ์ สติปัญญา พร้อมทั้งให้ทางโรงเรียนติดตามสังเกตุพฤติกรรมและดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง”นายวัลลพ กล่าว