อุตรดิตถ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคใหม่ เน้นเลือกพรรค ส่วนพรรคพลังประชารัฐ รู้ตัวคนทำลายป้าย แต่ไม่เอาเรื่อง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 นายปัณณวัฒน์ นาคมูล หัวหน้าคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ จ.อุตรดิตถ์ นำนายเลิศศักดิ์ จันทร์สูง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อุตรดิตถ์ เขต 1 พรรคอนาคตใหม่หมายเลข 2 และ นายภิศิษฐ์ วงศ์ทอง ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ หมายเลข 1 และทีมงานหาเสียง นำป้ายที่มีภาพของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และป้ายหาเสียงที่ทำด้วยฟิวเจอร์บอร์ดของพรรคอนาคตใหม่ หรือเรียกว่า นโยบายเคลื่อนที่ ออกหาเสียงทั่วทั้งจังหวัด โดยไม่แบ่งเขตว่าเป็นเขต 1 หรือเขต 2 แต่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทั้ง 2 คน ต่างพร้อมใจกันลงพื้นที่ที่ไม่แบ่งเขตเลือกตั้งเหมือนกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคอื่น ๆ ที่ต่างก็หาเสียงในเขตพื้นที่ของตัวเองเป็นสำคัญ นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกอย่างมากในการหาเสียงของพรรคการเมืองที่เคยมีมา
นายปัณณวัฒน์ กล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ แม้จะมีพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองคือ เขต 1 และ เขต 2 แต่ผู้สมัครทั้ง 2 คนของพรรค ต่างก็ช่วยกันหาเสียงทั้งจังหวัดโดยไม่แบ่งเขตเลือกตั้งหรือพื้นที่รับผิดชอบของตัวเอง ประการแรกที่เน้นคือ เน้นหาเสียงให้กับพรรคหรือหัวหน้าพรรค รองลงมาก็คือหาคะแนนเสียงให้กับตัวผู้สมัคร ส.ส.เอง
ขณะเดียวกันการหาเสียงทุกจุดจะมีป้ายที่มีภาพของหัวหน้าพรรคและป้ายหาเสียงติดตามผู้สมัครไปด้วย หรือเรียกว่า นโยบายหาเสียง ซึ่งไม่เหมือนกับพรรคการเมืองอื่นที่ผู้สมัคร ส.ส.ไปหาเสียงตามชุมชนต่าง ๆ นั้นจะเน้นแจกใบแนะนำตัวและแผ่นพับนโยบายของพรรคการเมือง นโยบายเคลื่อนที่ของพรรคอนาคตใหม่ จึงเป็นที่สนใจและชอบใจของประชาชนมากกว่า เพราะประชาชนไม่ต้องถือแผ่นป้ายแนะนำตัวหรือแผ่นพับนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง นโยบายหลักที่พรรคอนาคตใหม่เน้นย้ำคือ การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และการปรับลดงบประมาณของกระทรวงหลาโหม และเศรษฐกิจในระบบรากหญ้า
ด้าน พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ออกตระเวนตรวจสอบป้ายหาเสียงในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จำนวน 4 ป้ายที่ถูกทำลายด้วยการใช้ของมีคนกรีดที่ป้ายจนขาด ซึ่งทาง พ.ต.อ.ดิษยเดช กล่าวว่า หลังจากดูกล้องวงจรปิดแล้วทราบว่าเป็นใครเกี่ยวข้อกับผู้สมัคร ส.ส.และพรรคการเมืองอะไร แต่จะไม่เอาเรื่อง เพราะการที่ไม่ชอบหรือชอบใครก็ไม่ควรแสดงออกแบบนี้ ควรมีสติหรือเก็บความรู้สึกไว้จะดีกว่า ส่วนตัวมองว่า น่าจะเป็นเวรกรรมของคนแบบนี้เองที่สภาพจิตใจอาจจะบกพร่อง มีความพิการทางความคิด แต่เชื่อว่าผู้สมัครและพรรคการเมืองที่คนโรคจิตพวกนี้ให้การสนับสนุนอยู่อาจจะไม่รู้เรื่องด้วย ไม่ขอเอาเรื่องแต่ขออโหสิกรรมให้กับผู้ที่กระทำเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่จะเดินหน้าหาเสียงต่อไปแบบไม่ย่อท้อแต่อย่างใด
ปวินท์ อินกล่ำ รายงาน