“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 5 เขต ชูพิษณุโลกเป็นเมืองมหานคร ภาคเหนือตอนล่าง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อำเภอมือง จังหวัดพิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้ง 5 เขตของจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทาง เข้านมัสการพระพุทธชินราช กราบสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทน์ อำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยบรรยากาศทั้ง 2 จุดได้มีประชาชนนำดอกไม้ พวงมาลัย ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคนต่อไป ภายหลังว่างเว้นไม่มีหัวหน้าคนไหนกล้าลงทุนเดินทางลงไปพบประชาชน 200 สัปดาห์ จากนั้นได้แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 เขตของจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม เขต 1 อดีต ส.ส.พิษณุโลก 3 สมัย นายธีระ อำพูล เขต 2 นายพงษ์มนู ทองหนัก เขต 3 นางสาวมุธิตา ทองคำนุช เขต 4 และนายคณิศร มาดี เขต 5
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะบริหารพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก โดยประกาศให้พิษณุโลก เป็นเมืองมหานครของภาคเหนือตอนล่าง พร้อมยืนยันรับใช้ประชาชนและคนไทยทั้งประเทศ ตามนโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความต้องการให้ความเจริญกระจายไปทั่วทุกแห่งทั่วประเทศ ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่การกระจายความเจริญตามหัวเมืองหลัก ใกล้ไกลได้รับการพัฒนาอย่างเท่าเทียม ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การบริการ การศึกษา การขนส่ง การคมนาคม เป็นต้น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการเห็นความเจริญกระจุกใน กทม. ซึ่งการเดินทางมาจังหวัดพิษณุโลกในครั้งนี้เพื่อต้องการเดินทางหนีฝุ่นหมอกควัน ที่เกิดจากปัญหาหนึ่งในการพัฒนาความเจริญกระจุก ในวันข้างหน้าพิษณุโลกเป็นเมืองศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่าง จะต้องไม่ซ้ำรอยการพัฒนาแบบเมืองหลวงในทุกวันนี้ การพัฒนาต้องมีคุณภาพ แนวคิดกระจายอำนาจเรามีบริการพิเศษ แตกต่างออกไปทุกจังหวัด ต้องมีทางเลือกผู้นำ โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะเกิดขึ้นแน่นอน การบริการ การจัดการขนส่งมวลชนสาธารณสุข การศึกษา การกำจัดมลพิษ ทางน้ำ ทางอากาศและอื่นๆ
พิษณุโลกเป็นเมืองศูนย์กลางสี่แยกอินโดจีน ซึ่งการพัฒนาจะเห็นเป็นรูปธรรมการผลักดันทั้ง 5 เขต ของพิษณุโลกมีความหลากหลายปัญหาการค้าขายฝืดเคือง ทางพรรคประชาธิปัตย์จะแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร ที่ปลูกอ้อย ข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง ในนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีศักยภาพทำให้เกษตรกรทุกกลุ่มและพืชทุกชนิด พรรคประชาธิปัตย์จะนำการประกันรายได้ ปัญหาที่ทำกิน ปัญหาเรื่องน้ำ จะมีคำตอบให้กับประชาชน ในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
“การทำงานเป็นทีมของพรรคถประชาธิปัตย์อย่างเป็นเอกภาพ การทำงานเป็นเสียงเดียวกันจะทำให้การแก้ไขปัญหา และพัฒนาไปได้ดี ที่ผ่านมาอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทำงานที่สำคัญให้ประเทศมีการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ และครั้งนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นการลงทุนทางด้านคนเป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรก เพราะเห็นว่าคนมีความสำคัญและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด พรรคประชาธิปัตย์จึงขอประกาศความพร้อมและมีความมั่นใจในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการเลือกผู้สมัคร ส.ส. เพื่อเข้ามาทำงาน แทนประชาชน ทำให้ประเทศหลุดพ้นจากเศรษฐกิจย่ำแย่ ปัญหาคอรัปชั่น”นายอภิสิทธ์ กล่าว
ชนันท์ ช่างเงิน ภาพ/ข่าว