เพชรบูรณ์ ทวงคืนพื้นที่ป่า 15 วัน ยึด 4,016 ไร่ พบรายชื่อครู ตำรวจ ทหาร
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11, พันเอก พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ร่วมกับ, นายบพิตร ปิงโสภา ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพิ้นอนุรักษ์, นายสมชาย ภิญโญชูโต หัวหน้าโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-ลุ่มน้ำชุน, นายเพิ่มศักดิ์ ดวงแก้ว หัวหน้าสายตรวจปราบปราบ สายที่ 3 จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11, นายอาทิตย์ อัมลา เจ้าหน้าโครงการฯ, นายสมชาย ฉิมแย้ม ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้, นายธนาเทพ แก้วกก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และกอ.รมน.จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สนธิกำลังเพื่อปฏิบัติการปราบปรามนายทุนที่บุกรุกในพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัย ลุ่มน้ำก้อ-ลุ่มน้ำชุน จังหวัดเพชรบูรณ์
การตรวจยึดทวงคืนพื้นที่ป่าในครั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้เข้าดำเนินการปูพรม ตรวจยึดและแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนผู้บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในโครงการฯดังกล่าว พบการบุกรุกครอบครองของนายทุนที่มาจากภาคใต้, กรุงเทพฯ และจ.นนทบุรี มีแทบทุกอาชีพ บริเวณ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อปลูกต้นยางพารา ปาล์มน้ำมัน เป็นจำนวนมาก
ข่าวแจ้งว่า ที่น่าตกใจ คือนายทุนชื่อ “เสี่ยลู่” ยึดถือครอบครองพื้นที่แปลงใหญ่ เนื้อที่มากถึง 3,021 – 3 – 48 ไร่ ปลูกยางพารา และปลูกกอไผ่แนวเขตพื้นที่ ถ้ามองจากด้านนอกเหมือนป่าปกติ แต่ด้านในต้นยางพารา ผู้ที่ครอบครองส่วนใหญ่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบชื่อจริง และนามสกุล ของทุกรายหมดแล้ว พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีแล้วเป็นที่เรียบร้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า การสนธิกำลังปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุนที่บุกรุกป่า “โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัย ลุ่มน้ำก้อ-ลุ่มน้ำชุน” อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 24 มกราคม 2562 ดำเนินคดีกับนายทุน 15 ราย ยึดคืนพื้นที่ป่าโครงการฯ จำนวน 4,016-3-44 ไร่
พร้อมเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการนายทุนผู้บุกรุกป่าอย่างเคร่งครัด และช่วยเหลือ ดูแลผู้ยากไร้ตามคำสั่งคสช.ที่ 66/2557 ”
พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวว่า ความจริงแล้วยังไม่ได้ตรวจยึดนั้น อีกนับ 10,000 ไร่ มีแทบทุกอาชีพเลย ครู ตำรวจ ทหารและมีตำรวจที่จะลงสมัครเป็นส.ส.ด้วย แต่ตนไม่ได้หนักใจอะไร ยังคงเดินหน้าทวงคืนผืนป่าโครงการฯต่อไป และการทวงในครั้งนี้จะไม่ทำให้ประชาชนเดือนร้อน อาจจะมีบางรายหลงผิด หลงเชื่อไปรับสมอ้างว่าเป็นที่เดิมของตน ทั้งๆที่ดินนั้นเป็นของนายทุน เจ้าหน้าที่ได้ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปทำความเข้าใจกับลูกบ้านของตนเพื่อช่วยลดความกังวลของพี่น้องประชาชนแล้ว
ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า เนื่องจากคำสั่ง คสช.66/57 ลงวันที่ 17 มิ.ย.2557 เป็นกฏหมายคุ้มครองสิทธิผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ทำกิน ฉะนั้นชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่โครงการฯอยู่เดิม จึงไม่ต้องเดือดร้อน การทวงคืนในครั้งนี้จะดำเนินคดีเฉพาะนายทุนที่บุกรุกครอบครองพื้นที่อย่างไม่ถูกฏหมายเท่านั้น และพื้นที่ป่าที่ได้กลับคืนมานั้น จะนำมาทำการฟื้นฟูร่วมกับชุมชน ทำให้เกิดประโยชน์ เป็นสมบัติของชาติ และลูกหลานต่อไป