พิษณุโลก ผบก.ตร.-รองเสธ.มทบ.39 รุดเยี่ยมมอบกระเช้า “พระสมเด็จ” มีสติตอบโต้ได้ดี
วันที่ 19 มกราคม 2562 พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก(ผบก.ภ.จว.พ.ล.) พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 39 ( รองเสธ.มทบ.39 )เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากจังหวัดพิษณุโลก มายังที่ บ้านพร้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และมายังที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย พร้อมนำกระเช้าไปมอบให้พระสมเด็จ เปสโล และซักถามถึงเหตุการณ์การหายตัวที่ผ่านมาไป 33 วัน ในเบื้องต้นพระเด็จ มีสภาพร่างกายที่แข็งแรงดี มีสติดี สามารถพูดจาตอบโต้ได้ดี มีแต่เพียงน้ำหนักตัวที่ลดลง
ผบก.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ตำรวจตั้งใจนำเฮลิคอปเตอร์มาร่วมกับญาติเพื่อเตรียมบินค้นหาพระสมเด็จ อยู่แล้ว แต่ทีมค้นหาของชาวบ้านมีความชำนาญกว่ามาก และพบตัวพระสมเด็จ จึงช่วยกลับมาได้อย่างปลอดภัย ถือว่า สิ้นสุดของการค้นหา ในทางคดีก็ไม่มีอะไร ไม่ได้ดำเนินคดีกับใคร เป็นเรื่องคนหาย ส่วนพระอำนาจและพระลูกวัดอีกคนนั้น แค่เป็นผู้ต้องสงสัยในเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ทำการ สอบสวนหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด และไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ
พระสมเด็จ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันที่ 17 ธันวามคม 2561 ตนตั้งใจขึ้นไปเขาผาขี้ควาย เพื่อสวดมนต์บนเขา เดินตามพระอำนาจตลอด แต่ร่างกายตนไม่แข็งแรง จึงเดินรั้งท้าย และตั้งใจเลี้ยวซ้ายว่าจะกลับวัดบ้านพร้าว แต่ก็เดินไกลบนเขาเข้าป่าไปเรื่อย อาศัยกินหยวกกล้วย ปลีกล้วย ยอดหวายกลางป่า กระทั่งเดินหลงป่า พบผู้ชาย 2 คนใส่ชุดดำ บอกให้หาถ้ำ ตนก็เดินไปตามทางที่ผู้ชายสองคนเขาบอก บอกให้ไปอยู่ในถ้ำ เดี๋ยวจะมีคนมารับ จากนั้นทั้งคู่ก็หายไป ไม่ได้พบกันอีก
“ในถ้ำมีหม้อด้วย และตนนำไฟแช็คไป 5 อัน อาศัยใช้จุดกองไฟในถ้ำ ต้มหยวกกล้วย จนไปแช็คหมดไป 4 อัน กระทั่งเช้าวันนี้ประมาณ 04.30 น. ทีมค้นหาที่เป็นชาวบ้าน 4 คนก็ไปพบตนในถ้ำ และพากลับลงมาข้างล่าง ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณกันได้อย่างไร รู้สึกดีใจมาก ที่ได้กลับลงมาได้พบครอบครัว จากนี้ก็จะกลับไปจำวัดต่อที่วัดบ้านพร้าว”พระสมเด็จ กล่าว