“จุติ ไกรฤกษ์”” มุ่งเน้นคุณค่าชีวิตคน มากกว่าวัตถุโครงสร้าง งบประมาณใช้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(รมว.พม.) เปิดเผยว่าภายหลังการประชุมหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ สำหรับแนวทางการจัดสรรงบประมาณปี 2563 ในการขับเคลื่อนงานของกระทรวง พม. อย่างมีประสิทธิภาพว่ากระทรวงพม. มุ่งเน้นการจัดลำดับความสำคัญของงานและผลลัพธ์ที่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าของโครงการต่างๆภายใต้การพัฒนาคนสู่ศตวรรษที่ 21
นายจุติ กล่าวอีกว่ การบูรณาการกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการประหยัดงบประมาณลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน สำหรับผู้รับบริการให้มากที่สุด โดยผู้บริหารของแต่ละหน่วยงานจำเป็นต้องมีการประชุมทำแผนร่วมกันภายในเดือนสิงหาคม นี้ เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
“การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ฝ่ายค้านพยายามสกัดกั้นรัฐบาลนั้น เชื่อว่าฝ่ายค้านทุกคนมีความตั้งใจในการช่วยเหลือประชาชนเช่นเดียวกัน ซึ่งภารกิจของกระทรวง พม. ที่ดำเนินการตรงใจกับสภาผู้แทนราษฎร โดยฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบดังนั้น กระทรวง พม. ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตรงไปตรงมาและสามารถตรวจสอบได้ในส่วนของงบประมาณที่ไม่ได้รับจัดสรรได้ชี้แจงต่อสำนักงบประมาณว่า เนื่องจากภารกิจที่มีมากแต่งบประมาณที่ได้รับมีจำนวนจำกัด และโครงการใดที่มีการชะลอไม่ได้เป็นโครงการก่อสร้าง“ นายจุติกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทวง พม.กล่าวด้วยว่า แต่ชีวิตมนุษย์ความเป็นความตาย ความเจ็บป่วย ความสุข และความทุกข์ ซึ่งไม่สามารถรอได้เหมือนตึกอาคาร โดยขอให้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์มากกว่าวัตถุดิบ หรือโครงสร้างในส่วนของกระทรวง พม. ยืนยันว่าทุกโครงการต้องมีความคุ้มค่า และมีความเร่งด่วนต่อสังคมเช่นการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียนจำเป็นต้องเร่งดำเนินการยับยั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นในขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขิ้นแล้ว จำเป็นต้องสร้างความมั่นคงในชีวิตด้วยการสร้างอาชีพให้สามารถดูแลตนเองได้ และเปิดโอกาสให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข
“เรื่องของชีวิตมนุษย์ของทุกคนมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันแต่ความเร่งด่วนของปัญหาภายใต้ข้อจำกัดของงบประมาณ นับว่าเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการดำเนินงานดังนั้นกระทรวง พม.จะมีการใช้เงินกองทุนฯที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ถ้าไม่เพียงพอขอให้สำนักงบประมาณช่วยมาเติมและที่สำคัญสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน คือใครที่มีมากสบายแล้ว ขอให้มาช่วยกันเฉลี่ยสุขเฉลี่ยทุกข์ให้กับคนที่ยังไม่มีจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อีกเยอะเช่นกัน” นายจุติกล่าว