“จุติ ไกรฤกษ์” นำศาสตร์พระราชาดับทุกข์ประชาชน เตรียมทำแผนแม่บทผู้สูงวัย ท้องก่อนวัยแชมป์เอเซีย

สร้างขวัญกำลังใจข้าราชการ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ส่วนคดีทุจริตคนจนเดินตามกฎหมาย

นายจุติไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักจังหวัดพิษณุโลกว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคม ตนจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงพัฒนาสังคมฯอย่างเป็นทางการ เพื่อมอบนโยบายและรับฟัง ปัญหา สำหรับสิ่งที่รอการแก้ไขไปที่เป็นปัญหาหลัก คือ การเตรียมพร้อมผู้สูงอายุ และเข้าสู่ยุคของสังคมผู้สูงวัยอย่างเป็นทางการที่มีกว่า 10 ล้านคน

“ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะต้องเตรียมแผนแม่บท เพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอีก 5 ปี
เพื่อให้ส่งผลกระทบกับประเทศน้อยที่สุด และแผนแม่บทจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2562 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ขณะนี้กำลัง รับฟังจากผู้เชี่ยวชาญหลายมหาวิทยาลัย รวมทั้งข้อมูลจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าว

นายจุติ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องทำในระยะสั้น ระยะกลาง คือภารกิจ กระทรวงพัฒนาสังคม แล้วความมั่นคงของมนุษย์ทำอยู่แล้ว แต่ต้องสนองต่อประชาชนมากขึ้น คือ”หน่วยดับเพลิง”คือ ดับทุกข์ของประชาชนที่เกิดขึ้น โดยการนำศาสตร์พระราชา มาเป็นแนวทางในการทำงานให้กับประชาชนนั่น หมายถึงทำให้เข้าใจปัญหาของประเทศ ทั้งผู้ด้อยโอกาสคนยาก คนจน และคนที่จนจริงควรจะได้รับการช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพ จะไม่มองว่าสังคมอยู่ได้ด้วยการรับแจกเงิน ต้องมีการพัฒนาทักษะพัฒนาความรู้ความสามารถในการสร้างอาชีพพึ่งพาตนเองได้

นายจุติ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ศาสตร์พระราชาที่ 2 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำงานเยอะมาก จะใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานในการตรวจสอบและปรับปรุงในการบริการประชาชน คือสิ่งที่ต้องรีบทำ ภารกิจ ต้องร่วมบูรณาการ ก็หลายกระทรวงไม่ใช่เฉพาะฝ่ายการเมือง ฟังข้าราชการประชาชน ต้องร่วมกัน

“นอกจากนั้นปัญหาท้องก่อนวัย ตอนนี้ประเทศไทยเป็นแชมป์เอเชียไปแล้ว จะเป็นปัญหาสังคม แต่จะโทษใครไม่ได้ต้องช่วยให้พ้นวิกฤตพ้นจากความทุกข์ให้ได้ จึงต้องให้ความรู้ฝึกอาชีพให้เขาสามารถ พัฒนาคุณภาพมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญ และป้องกันด้วยการให้ความรู้ให้เขาคิดเป็นเป็นที่พึ่งของเขาให้ได้ อย่างไรก็ตาม งบประมาณในส่วนของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้นมีน้อยมาก ถ้าเปรียบเทียบมีเงินเพียง 40 บาท ต้องหาเพิ่มอีก 60 บาท ถึงจะปฏิบัติภารกิจได้เต็มที่”นายจุติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึง ปัญหาการทุจริตเงินช่วยเหลือคนจนในกระทรวงพัฒนาสังคมฯที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ นายจุติ กล่าวว่า เรื่องการทุจริตมีปัญหาไว้ อยู่ในสายงานการบังคับบัญชาของสำนักปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ทำให้คนดีๆ ต้องท้อแท้ มีขวัญกำลังใจต่ำ ทำอะไรก็ระวังไปหมด เพราะฉะนั้นใครทำงานด้วยกันด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตทำเพื่อ ประเทศชาติบ้านเมือง ต้องปกป้อง ไม่ไปกลั่นแกล้ง ให้โอกาสทุกคนทำงานเพื่อประชาชน ขวัญกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกันปัญหาด้านการทุจริตต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย