เมียหลวงควงปืน ”กระหน่ำยิง”สามีร่อแร่-กิ๊กตาย
เมื่อเวลาประมาณ 18.15 น.วันที่ 9 มกราคม2561 ศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้าน ต้นขวัญแฟชั่น ถนนข้างวัดนาก่วมใต้ ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างนครลำปาง ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน จากนั้น พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา ผกก.สภ.เขลางค์นคร พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณฐชนนท์ เพ็งสิน รอง สว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่สืบสวนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นชาย 1 คน นอนอยู่ข้างรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กพ 6682 ลำปาง และหญิง 1 ราย นอนหมดสติอยู่ด้านหน้าร้านขายเสื้อผ้ามือสอง เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตรวจวัดชีพจร และทำการปั๊มหัวใจช่วยเหลือ ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำขึ้นรถกู้ชีพแลพส่งโรงพยาบาล
ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.ฐิติชดา ต้นบุศย์ อายุ 42 ปี ราษฎรบ้านไหล่หิน หมู่ที่ 1 ต.บ้านใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จ.ลำปาง และนายอนุวัตร ใจดี อายุ 51 ปี ราษฎรบ้านป่าเหียง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง และพบปลอกกระสุนตกอยู่กลางถนน และรอบรถเก๋ง จำนวนหลายปอก ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นางประภา ใจดี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 372 หมู่ 2 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นภรรยาของนายอนุวัตร ใจดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดอาวุธปืนซีแซด ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก มาเก็บไว้
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางประภา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 1กฆ 3379 ลำปาง มาจอดไว้ด้านหน้าร้านขายของชำข้างตลาดนาก่วมใต้ และได้เฝ้ารออยู่
จนกระทั่งพบเห็นรถยนต์เก๋งนิสสัน ขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านต้นน้ำแฟชั่น ซึ่งภายในรถมีนายอนุวัตร และ น.ส.ฐิติชดา นั่งมาด้วยกัน จึงได้เดินเข้าไปหาและใช้อาวุธปืน 9 ม.ม.ยิงใส่ทั้งคู่ไปหลายนัดขณะที่กำลังลงจากรถ โดยนายอนุวัตรได้วิ่งไปล้มลงอยู่กลางถนน
ส่วน น.ส.ฐิติชดา พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในร้านและล้มลงบริเวณหน้าประตูบ้าน กระทั่งปืนขัดลำกล้อง นางประภา จึงได้เกิดกลับมานั่งรอมอบตัวอยู่ด้านข้างร้านขายของชำ พร้อมทั้งสูบบุหรี่ และดื่มเบียร์ โดยมีพลเมืองดีช่วยคุมตัวไว้ ก่อนจะแจ้งตำรวจฯ มาควบคุมตัวไป สาเหตุเกิดจากคับแค้นใจที่สามีของตนเองไปคบหากับ น.ส.ฐิติชดา ทั้งที่เคยบอกให้เลิกรากันแล้วแต่ก็ไม่ยอมเลิก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาล ว่า น.ส.ฐิติชดา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงแล้ว ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ มีผู้หญิงขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านแล้วตะโกนตลอดทางว่า” ตายเหีย ตายเหีย “ (ตายเสีย ภาษาภาคกลาง)และไปจยย.จอดรอหน้าร้านขายของชำ