พิษณุโลก นักเรียน นักศึกษาท้องก่อนวัย เกินร้อยละ 50 ของสถิติ พบเด็กอายุ 12 ตั้งครรภ์
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561 ที่ห้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวันรุ่น ระดับจังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 1/2562 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นคณะอนุกรรมการร่วมประชุม
ทั้งนี้ เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในปี 2561 และแผนดำเนินการในปี 2562 ซึ่งจากการจัดเก็บข้อมูลจากสถานพยาบาลระหว่างเดือนเมษายน -พฤษภาคม 2561 พบนักเรียน นักศึกษา ตั้งครรภ์ก่อนวัย มีสถิติร้อยละ 52.70 /1,000 ประชากร และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ
เด็กหญิงที่มีอายุ 10-14 ปี ในพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก พบมากที่สุด คือ อำเภอวัดโบสถ์ 4.2/1,000 ประชากร อำเภอนครไทย 2.92 อำเภอวังทอง 2.67 อำเภอบางกระทุ่ม 1.87 อำเภอพรหมพิราม 1.46 อำเภอเนินมะปราง 1.30 อำเภอบางระกำ 0.88 อำเภอชาติตระการ 0.74 และน้อยที่สุด คือ อำเภอเมือง
ผู้หญิงอายุระหว่าง 15-19 ปี พบมากที่สุดคือ อำเภอวัดโบสถ์ 38.69 /1,000 ประชากร อำเภอพรหมพิราม 38.21 อำเภอบางระกำ 34.27 อำเภอวังทอง 32.13 อำเภอเนินมะปราง 30.11 อำเภอชาติตระการ 29.44 อำเภอนครไทย 27.62 อำเภอบางกระทุ่ม 27.14 และอำเภอเมือง 16.87
นายแพทย์ปิยะ กล่าวว่า เด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะนักเรียนเกิน ร้อยละ 50 ความจริงมีความพร้อมทั้ง ยา เครื่องมือ บุคลากร แต่ไม่สามารถคุมกำเนิดถาวรได้ เนื่องจากพอเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี มาคลอด หลบหนีไม่ยอมให้คุมกำเนิดติดตามไม่ได้ แต่มีการตั้งครรภ์ช้ำในหมู่เยาวชน โดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่สามารถป้องกันได้ เช่น ไปเที่ยวงานในเทศกาลต่างๆ
“จังหวัดพิษณุโลก ตั้งครรภ์ก่อนวัยเกินเกณฑ์มีจำนวนมากอยู่ในอันดับ 2 ของเขตสุขภาพที่ 2 ซึ่งในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง จึงมีสถิติจัดอยู่ในระดับสูงของประเทศ”นายแพทย์ปิยะ กล่าว
ทางด้านนายแพทย์ณัฐธีร์ ธนะไชยพันธุ์ นายแพทย์กุมารเวช โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ซึ่งรับผิดชอบคลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น กล่าวว่า 1 ปี เด็กที่มาทำคลอด ประมาณ 800 ราย มีอายุระหว่าง 13-14 ปี และพบว่ามีอายุต่ำสุด 12 ปี ที่มาคลอดพ่อแม่จะไม่ทราบ และหลังคลอดพยายามติดต่อไป เพื่อคุมกำเนิดโดยไม่สามารถติดต่อได้ บางคนย้ายหนีไปทั้งครอบครัว จึงเป็นปัญหาบางคนอยากกลับไปเรียนต่อ แต่ทางสถานศึกษาให้ย้ายไปเรียนที่ใหม่ คือ กศน.เพราะไม่ต้องการให้เป็นแบบอย่าง