พิษณุโลก นำร่องจัดตั้ง”ทนายความอาสา”ฟรีประจำโรงพัก ประเดิมนำร่อง ภูธร 125 แห่ง นครบาล 25 แห่ง
วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ว่าที่ ร.ต.ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ พ.ต.อ.กฤตธรรม อุทัยชัย ผู้กำกับ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 6 ร่วมเปิดการอบรมโครงการทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจ (ภาค 6) แก่ทนายความอาสาประมาณ 200 คน ผู้ซึ่งจะปฏิบัติงานตามสถานีตำรวจต่างๆกว่า 200 คน ที่โรงแรมดิอิมพีเรียลโฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
โดยจัด “ปาฐกถาพิเศษ” เรื่อง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในชั้นสถานีตำรวจ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 33 และ 34) และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ.2562
นายกสภาทนายความ กล่าวว่า โครงการ”ทนายความอาสา”ประจำสถานีตำรวจ(โรงพัก) เป็นโครงการภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม และพัฒนากลไก ช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เพื่อคุ้มครองผู้เสียหาย ผู้ต้องหา และจำเลย มีมาตรการปฏิบัติต่อผู้เสียหายและพยานอย่างเหมาะสม จัดให้มีทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย จากที่เคยมีประจำศาล กระทั่งได้จัดสรรงบประมาณ 70 ล้านบาท
ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เพื่อจัดสรร ค่าใช้จ่ายแก่ค่าทนาย เพื่อไปประจำสถานี นำร่องจำนวน 150 สถานี ทั่วประเทศ
สภาทนายความ เห็นว่างานให้คำปรึกษาปัญหากฎหมายแก่ประชาชน ถือเป็นภาระสำคัญที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจปัญหากฎหมายที่ตนเองกำลังประสบอยู่ สามารถคลี่คลายความเดือดร้อนเบื้องต้นได้ “ทนายความอาสา”ประจำสถานีตำรวจ มีหน้าที่เฉพาะให้คำปรึกษาแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจ ดบริการให้คำปรึกษาในช่วงเวลา 08.30 น. – 16.30 น. และช่วงเวลา 16.30 น. – 23.30 น.
กรณีประชาชนจำเป็นต้องดำเนินคดีในชั้นศาล สภาทนายความจะก็จัดให้ความช่วยเหลือจัดทนายที่ศาลได้ โดยให้ทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจเป็นผู้ส่งมอบงานต่อไป
ว่าที่ ร.ต.ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ กล่าวว่า โรงพักทั่วประเทศไทยมีจำนวน 1,482 สถานี ซึ่งโครงการทนายความอาสา ได้นำร่องจัดทนายลงไว้ 125 แห่งในต่างจัดหวัด และ 25 แห่งในกรุงเทพ ซึ่งหลายภาคของประเทศได้จัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ทนายความไปครบแล้ว ซึ่งพร้อมแล้ว เหลือเพียงแต่รองบประมาณรัฐจำนวน 70 ล้านบาทจัดสรรลงมาเพื่อว่าจ้างทนายไปประจำโรงพัก โดยที่ประชาชนได้รับบริการที่ปรึกษากฏหมายฟรีแน่นอน พร้อมส่งต่อไปยังทนายความอาสาที่มีอยู่ประจำศาลในหลายแห่งเป็นอยู่ปกติอยู่แล้ว
ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เพื่อจัดสรร ค่าใช้จ่ายแก่ค่าทนาย เพื่อไปประจำสถานี นำร่องจำนวน 150 สถานี ทั่วประเทศ
สภาทนายความฯ พิจารณาเห็นว่างานให้คำปรึกษาปัญหากฎหมายแก่ประชาชน ถือเป็นภาระสำคัญที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจปัญหากฎหมายที่ตนเองกำลังประสบอยู่ สามารถคลี่คลายความเดือดร้อนเบื้องต้นได้ “ทนายความอาสา” ประจำสถานีตำรวจ มีหน้าที่เฉพาะให้คำปรึกษาแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจ ดบริการให้คำปรึกษาในช่วงเวลา 08.30 น. – 16.30 น. และช่วงเวลา 16.30 น. – 23.30 น.
กรณีประชาชนจำเป็นต้องดำเนินคดีในชั้นศาล สภาทนายความจะก็จัดให้ความช่วยเหลือจัดทนายที่ศาลได้ โดยให้ทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจเป็นผู้ส่งมอบงานต่อไป