พิษณุโลก ชาวม้ง น้ำคับ–น้ำจวง เฮ!! ทหารสร้างถนนเชื่อม บ้านนาตอน–บ้านน้ำจวง 21 กม.
วันที่ 12 ก.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุทัศน์วงษ์ทับทิมนายอำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดถนนสายบ้านนาตอน–บ้านขุนน้ำคับต.บ่อภาคอ.ชาติตระการจ.พิษณุโลกซึ่งก่อสร้างโดยทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่34 โดยมีพันเอกณรงค์ไชยชัยชนะผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่34 สำนักงานพัฒนาภาค3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นควบคุมดำเนินการก่อสร้างถนนและได้ส่งมอบให้นายพีรากรราชเพียแก้วนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค
หลังจากที่ได้ดำเนินการปรับปรุงถนนลูกรังให้เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง6 เมตรระยะทางยาว2.9 กิโลเมตรเริ่มดำเนินการสร้างถนนตั้งแต่25 มกราคม2562 ถึง30 มิถุนายน2562 ใช้เวลาทำถนนจำนวน156 วันเพื่อใช้สัญจรระหว่าง3 หมู่บ้านคือบ้านขุนน้ำคับบ้านน้ำจวงและบ้านน้ำจวงใต้ เพื่อประโยชน์ด้านขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและเป็นเส้นทางท่องเที่ยวในเชิงเกษตรและอนุรักษ์ มีประชากรได้รับประโยชน์10,781 ไร่ประชากร2,200 ครัวเรือนรวม8,935 คน
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาถนนเส้นนาตอนขุนน้ำคับทหารหน่วยพัฒนาได้ดำเนินการซ่อมเป็นช่วงๆในปี2552 และ2558 แต่ไม่สามารถใช้สัญจรได้ทั้งเส้นเป็นหลุมเป็นบ่อบางช่วงสร้างความเดือดร้อนในช่วงฤดูฝนซึ่งระยะถนนทั้งหมด21 กิโลเมตรมีหลายหน่วยงานก่อสร้างคืออบต.อบจ.และจังหวัดเน้นสร้างถนนเฉพาะขึ้นเนินสูงชันและเว้นไว้ถนนราบๆลักษณะเป็นลูกรังบดอัด
กระทั่งปี2562 ทหารพัฒนาได้รับงบประมาณก่อสร้างจำนวน 9 ล้านบาทเศษสามารถสร้างถนนคอนกรีตจำนวน2.9 กิโลเมตรจากบ้านนาตอนหมู่1 ถึงบ้านจุดน้ำคับหมู่12 สามารถเชื่อมต่อตลอดทั้งเส้นรวมระยะทาง21 กิโลเมตร
นายสุเทพแซ่สงผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่13 บ้านน้ำจวง จำนวน3 กิโลเมตรกล่าวว่าขอขอบคุณทหารที่ได้มาสร้างถนนเส้นนี้สำเร็จที่ผ่านมาการเดินทางไปมาลำบากมากโดยเฉพาะหน้าฝนและนักท่องเที่ยวไม่คุ้นไม่รู้จักเส้นทางขับด้วยรถยนต์เก๋งไปมาไม่สะดวกกระทั่งวันนี้รถยนต์เก๋งสามารถขึ้นไปแหล่งที่องเที่ยวที่บ้านน้ำจวงได้แล้วและถ้าเป็นไปได้อยากให้ทหารไปสำรวจและสร้างถนนอีกระหว่างบ้านน้ำจวงขึ้นไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆอาทิแหล่งน้ำขนาดใหญ่และน้ำตกฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าสาเหตุที่ถนนได้รับความสนใจและหน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการภายใน1 ปีจนแล้วเสร็จสืบเนื่องจากเมื่อวันที่22 กรกฎาคมม2562 นายหยีแซ่หย่าง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่13 บ้านน้ำจวง(ในขณะนั้น) เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าตนและผู้นำชุมชนร่วมประชุมและทำประชาพิจารณ์กรณีมีโครงการชุมชนท่องเที่ยวโอท๊อปนวัตวิถีงบประมาณ2.8 ล้านบาทซึ่งมีความคิดเห็นตรงกัน โดยไม่ขอรับงบประมาณไม่ตรงกับความต้องการของชุมนุมพร้อมใจส่งคืนให้กับคลังของรัฐบาลเอาเงินไปให้กับหมู่บ้านอื่นดีกว่าเพราะขอให้รัฐปรับปรุงถนนเส้นทางเข้าหมู่จะได้ประโยชน์มากกว่า