พิษณุโลก ยึดไม้เถื่อน 43 ท่อน ไม้ธรรมชาติอยู่ในแปลงที่ดินโครง คทช. ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ-ป่าสวนเมี่ยง :อนุญาตให้ราษฎรทำกิน

พบรอบรถตีนตะขาบดันโค่นต้นไม้ 28 ต้น แต่ไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุ หัวหน้าชุดจับกุม ลั่น ! ตรวจสอบ หาผู้กระทำผิดได้ ว่า ใครเป็นเจ้าของที่ดิน ก่อนส่งไปยังพงส.สภ.ชาติตระการ

วันที่13 ธ.ค.68 นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก สั่งการให้รถจอหนังพร้อมรถบรรทุกไม้ชักลากไม้ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.)ไปยังบ้านหนองขาหย่าง หมู่ที่ 2 ตำบลสวนเมี่ยง อำเภอชาติตระการ หลังจากเย็นวานนี้ ( 12 ธ.ค.68) กรมไม้ โดยชุดปฎิบัติการพิเศษ และ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.4 (ป่าแดง-แก่งบัวคำ), ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิษณุโลก 1 กรมอุทยานฯ, หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 3 (ตาก) สปป.3 (ภาคเหนือ) ตำรวจป่าไม้ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจตชด. 315 ตรวจยึดไม้จำนวนมากและแผ้วถางผืนป่า

โดยลักลอบใช้รถแบ็คโฮผลักดันขุดโค่นต้นไม้ให้โค่นล้ม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสวนเมี่ยงกำลังป่าไม้ รุดตรวจบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบต้นไม้โค่นล้มกระจัดกระจายไปทั่ว เปลือกลำต้น เจอแรงกระแทกจากเครื่องจักรขนาดใหญ่ ล้มทั้งราก ยังไม่มีการตัดทอนเป็นท่อนๆ มีการริด ตัดแต่งกิ่ง และมีการสุมเผา เศษไม้ ปลายไม้ บริเวณพื้นดินมีร่องรอยของการขับเคลื่อนตีนตะขาบของรถแบ็คโฮ คาดว่า 1 สัปดาห์ผ่านมา เนื่องจากใบไม้เริ่มเหี่ยวแห้ง ตรวจสอบไม้ ไม่พบรูปรอยดวงตราจำนวน 28 ต้น แต่ไม่พบบุคคลใดเป็นผู้ครอบครอง/เจ้าของที่ดินในที่เกิดเหตุ ยืนยันอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสวนเมี่ยง นับจำนวนไม้กระยาเลย จำนวน 43 ท่อน คิดเป็นปริมาตร 27.953 ลูกบาศก์เมตร

พบไม้เติบโตตามธรรมชาติ ชนิดเต็ง, ไม้พลวง, ไม้รกฟ้า, ไม้แคทราย, ไม้กระพี้, ไม้สมอพิเภก,สะแกแสง ,ไม้หว้า, ไม้ตะแบก ไม่ใช่ไม้ ที่ประชาชนนิยมปลูก ตรวจภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2535 ยังคงสภาพป่าที่สมบูรณ์

เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึง แจ้งข้อหา ตามพรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้ ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69 วรรคสอง “มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตรา พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ฐาน ทำไม้ เป็นการเสื่อมเสีย แก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 26/4 ฐาน “ผู้ใดทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรชาติตระการ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าชุดฯ สปจ.4 สาขาพิษณุโลก เผยว่า การจับไม้เถื่อนครั้งนี้ ผู้กระทำผิดต้องการไม้ และต้องการเปิดพื้นที่ให้โล่ง แปลงที่ดินไม่ได้อยู่ในเขต สปก.4-01 แต่อยู่ในแปลงที่ดินโครง คทช. ซึ่งกรมป่าไม้ผ่อนปรนให้ราษฎรทำกิน แต่กลับทำผิดกฎหมาย กำลังตรวจสอบแปลงที่ดินดังกล่าว เพื่อรอยืนยันว่า ใครคือ เป็นเจ้าของที่ดิน และส่งข้อมูลไปยังพนักงานสอบสอบ สภ.ชาติตระการเอาผิด ตามพรบ.ป่าไม้ เนื่องจากหลักเกณฑ์เงื่อนไข แปลงที่ดิน คทช. สามารถทำไม้ได้ แต่ต้องขออนุญาตทำไม้ตาม ม.11 และต้องเป็นไม้ที่ปลูกขึ้นโดยมนุษย์ ไม่ใช่ไม้ธรรมชาติลักษณะเช่นนี้