กอ.รมน.จ.พิษณุโลก บูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ตรวจสอบแรงงานกัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร รอง ผอ.รมน.จ.พิษณุโลก และคณะประกอบด้วย จัดหางานจังหวัด แรงงานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ป้องกันจังหวัด ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ความมั่นคงอำเภอเมือง กองกำกับการสืบสวนจังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ แรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก ภายหลังจากการเกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดน ระหว่างกำลังทหารไทย และกำลังทหารประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ ตรวจพบว่า แรงงานกัมพูชาในจังหวัดพิษณุโลก มีขึ้นทะเบียนแรงงานไว้ 353 คน แยกเป็นเขตอำเภอเมืองมากสุดรองมาคืออำเภอวังทอง และกระจายอยู่ในเขต อ.วัดโบสถ์ อ.นครไทย อ.เนินมะปราง อ.บางกระทุ่ม แยกประเภทอยู่ในกิจการก่อสร้าง 210 คน ภาคเกษตร (กรีดยาง) 87 คน งานบ้าน 35 คน และอื่นๆอีก แต่ทำงานอยู่ในจังหวัดพิษณุโลกกว่า 200 คนเท่านั้นอีกที่เหลือ 100 คนนายจ้างนำพาแรงงานเขมรไปทำงานต่างจังหวัด
จุดแรกที่ไปคือ ไซด์งานก่อสร้าง หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.อรัญญิก อ.เมือง มีแรงงานกัมพูชา 4 คนกำลังทำงาน พบว่า พูดภาษาไทยดี มีบัตรต่างด้าวถูกต้อง เดินทางมาจากเสียมเรียบ, นครวัต รอง กอ.รมน.พล.ขอดูโทรศัพท์มือถือที่ใช้ พบว่า มีการเล่นโซเชียล โดยจนท.แรงงานใช้ล่ามเขมร แปลจึงทราบว่า ทางฝั่งเขมรบอก”ได้รับเจ็บแต่ก็ไม่ยอมถอย ไม่ยอมแพ้”
จุดที่สอง ไปตรวจไซด์งานก่อสร้างหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บ้านคลอง อ.เมือง พบ แรงงานกัมพูชา 3 คน มาจากพระตะบอง แรงงานกัมพูชา บอกว่า กลัวคนไทยจะมาทำร้าย ส่วนทางบ้านที่อยู่กัมพูชา ไม่ได้ส่งข่าวอะไร มีเพียงบอกว่า ประเทศไทยยิงปืนใหญ่ พร้อมกับฟังโทรมือถือจากแรงงานระบุว่า “ไม่ให้ทหารเขมรถอย”
พ.อ.นพดล กล่าวว่า เพื่อแจ้งเตือนตรวจสอบ การเฝ้าระวังเหตุการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อนายจ้าง และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตอนในของจังหวัดพิษณุโลก และช่องทางการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ หากพบสิ่งผิดปกติใดๆที่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารของเหตุการณ์ จากช่องทางราชการเท่านั้น
“อีกทั้ง พึงระวังการยุยงปลุกปั่นจากสื่อโซเชียลที่ไม่ถูกต้องเพื่อผลในการสร้างความเข้าใจผิดและสร้างความแตกแยกให้เกิดกับประเทศไทยของเราจากเหตุการตามแนวชายแดนดังกล่าว หากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่าน ช่องทางสายด่วน กอรมน. 1374 ได้ตลอด 24 ชม. จนท.จะได้เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา บรรเทาความกังวลและระงับเหตุที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ ให้ได้อย่างทันเวลา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนต่อไป” พ.อ.นพดล กล่าว