เพชรบูรณ์ บิ๊กทหารเรือเอี่ยว!! ครอบครองป่าสงวนฯ บันทึกกรมป่าไม้ จับอดีตผู้ใหญ่บ้าน
วันที่ 4 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับจากนายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ปลอมตัวเป็น”เสี่ย”หรือแต่งตัวนอกเครื่องแบบล่อซื้อที่ดิน ภบท.5 จากกลุ่มขบวนการขายที่ป่า ผ่านเฟสบุค”ระบุว่า “ที่ดิน ภบท.5 ราคาไร่ละ 30,000 บาท หมู่ที่ 3 ตำบลภูน้ำหยด อำเภอวิเชียรบุรี เพชรบูรณ์ กระทั่งสามารถทำบันทึกจับกุม นายฉลอง เหล็กทอง (อดีตผู้ใหญ่บ้าน) อายุ 74 ปี หมู่ 2 ตำบลวังข่อย อำเภอไพศาลี จ.นครสวรรค์ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุเตย อำเภอวิเชียรบุรี จว.เพชรบูรณ์ คดีอาญาที่ 51/2568 เวลา 23.00 น.ของวันที่ 2 เมษายน 68 และยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสองข้างทางสายชัยวิบูลย์ 2 แปลง คือ
- แปลงที่ 1. พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติถูกบุกรุก ยึดถือครอบครอง เนื้อที่จำนวน 173 – 3 – 32 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นพึงได้รับเป็นเงิน 219,746.39.- บาท
- แปลงที่ 2. พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติถูกบุกรุก ยึดถือครอบครอง เนื้อที่จำนวน 372 – 1 – 23 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นพึงได้รับเป็นเงิน 25,423,450.18.- บาท
- สิ่งปลูกสร้างถาวร(ไม้)ในที่เกิดเหตุป่าด้านทิศตะวันตก บ้านหนองภิรมย์ หมู่ 16 ตำบลภูน้ำหยด อำเภอวิเชียรบุรี เพชรบูรณ์
ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายฉลอง เหล็กทอง มีความผิดฐาน พรบ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ แผ้วถาง ทำลาย ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา ๕๕ ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่า
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ มาตรา ๑๔ ยึดถือ ครอบครอง ฯลฯ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา ๒๖/๔ ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมด มาตรา ๙ ยึดถือ ครอบครองเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน
ส่วนนายหน้าต้องขึ้นอยู่ดุลพินิจของ ร้อยเวร สภ.พุเตยว่า มีฐานความผิด”ทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือไม่ นอกจากนี้ ตามบันทึกของจนท.ป่าไม้ ผู้กล่าวโทษนั้น ยังพบว่า มีบุคคลนายทหารยศใหญ่ ร่วมเป็นคดีนี้ อีกด้วย
ทั้งนี้ นายฉลอง เหล็กทอง เป็นผู้นำทางและนำตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ ระบุว่า ภาพที่ประกาศขายที่ดิน เป็นของนายพล (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) เนื้อที่ประมาณ 315 ไร่ ราคาไร่ละ ประมาณ 27,000 – 28,000.-บาท และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ของตนเอง แต่ได้มีนายพลมาติดต่อขอซื้อ ตนเห็นว่าเป็นคนที่รู้จักคุ้นเคยกันมานาน จึงตกลงขายที่ดินให้ เป็นที่ราบสลับเนินเขา ติดกับเทือกเขาสูง พบร่องรอยการปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลังบางส่วน ,ร่องรอยเครื่องจักรกลหนักปรับพื้นที่ ,ขุดเจาะน้ำบาดาล กระทั่งต่อมานายฉลอง ระบุอีกว่า ตนเองยัง มีที่ดินอีก 315 ไร่ จะขายเช่นกัน ในราคา 3.5 ล้านบาทพร้อมมีในภบท.5 อยู่ติดกันกับแปลงที่ประกาศขาย มีลำห้วยกั้นกลาง จากนั้นจึงได้พาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปจึงถูกยึดทั้ง 2 แปลงดังกล่าว
ส่วนนายหน้าขายที่ดินอีก 3 คน ให้ปากคำอีกว่า พื้นที่จะทำการซื้อขาย มี 2 แปลง โดยมีเจ้าของ 2 ราย คือ นายฉลอง เหล็กทอง เนื้อที่ประมาณ 315 ไร่ และพื้นที่ของนายสมริทธ์ (ขอสงวนนามสกุล) จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 315 ไร่
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบชื่อ นายสมริทธ์ฯ พบว่า เป็นนายทหารยศใหญ่ “พลเรือตรี” ตำแหน่ง ระดับรองเจ้ากรมฯ สังกัดทหารเรือ จริง !!
ส่วน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ใช้เครื่องมือจับพิกัดดาวเทียมตาม นายฉลองนำชี้ คำนวณเนื้อที่ได้ 372 ไร่ อีกแปลง ของนายสมริทธ์ฯ ซึ่งนายหน้า(ขอสงวนนาม) ระบุว่า ไม่สามารถนำชี้ ได้ จะต้องให้เจ้าของ นำชี้เท่านั้น ทราบเพียงว่า ด้านทิศใต้ เป็นเส้นทางผ่านเข้า/ออก มีประตูรั้วปิดกั้น ลักษณะบุกรุก ยึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงมีฐานความผิด พรบ.ป่าไม้ ๒๔๘๔”มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ๒๕๐๗ มาตรา ๑๔ มาตรา ๒๖/๔ ส่งให้ สภ.พุเตย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
