พระ–ฤษี สำรวจความลี้ลับ“ถ้ำลับแล–เหล็กไหล” เลื่องชื่อเครื่องรางของขลัง
“ถ้ำพระไทรงาม” บ้านดงงูใหม่หมู่ที 8 ตำบลเนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก มีการเลื่องลือถึงเหล็กไหลเครื่องรางของขลัง ซึ่งเป็นที่แสวงหาหวังของนักสะสมว่าเข้มขลัง ในเรื่องคาดแคล้วปลอดภัยยิ่งนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติสำรวจถ้ำพระไทรงามและแอบเซาะหินสีดำ หรือ”เหล็กไหล”ติดมือกลับไป
ผู้สื่อข่าวได้ทางไปที่สำนักสงฆ์“ ถ้ำพระไทรงาม” บ้านดงงูใหม่หมู่ที่ 8 ตำบลเนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พระภิกษุสงฆ์ 1 รูป พร้อมฤษี 3 ตน ที่พำนักอาศัยอยู่ปาก”ถ้ำพระ”และมักเข้าไปนั่งสมาธิทำกิจวัตรภายในถ้ำพระไทรงาม แต่ครั้งนี้ได้นำพระบูชาไปปลุกเสก เนื่องจากที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมักเข้าไปในถ้ำและชอบแกะหิน หรือน้ำวัสดุ และเครื่องมือไปเซาะหินสีดำที่ชาวบ้านเรียกว่า”เหล็กไหล”นั้นติดมือกลับมาเป็นที่ระลึกจึงคิดค้นหาวิธีนำวัตถุมงคลไปบูชาแทนเหล็กไหล
สภาพภายในบริเวณถ้ำพระไทรงามพบว่า มีน้ำใสไหลนิ่ง เนื่องจากไม่มีฝนตกสะสมช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามากนักสำหรับความยาวของถ้ำลึกลับใต้พิภพแห่งนี้”ฤษี”ตนที่หนึ่งบอกว่า เคยเดินไปพร้อมกับนักสำรวจต่างชาติแล้ว3 วัน 3 คืน ยังไม่สุดปากทางออก ส่วนตำนานเรื่องเล่าของเณรที่เคยหลงในถ้ำพระฯอ้างเพียงว่าต้องเดินทะลุไปอีกอำเภอหนึ่ง จึงยังไม่มีผู้ใดเคนพิสูจน์ว่า ถ้ำพระไทรงามยาวเท่าใดกันแน่
เนื่องจากถ้ำแห่งนี้ลี้ลับ แต่สวยงามภายมีห้องโถงขนาดใหญ่จุดแรก คือสะดือถ้ำ มีหินย้อยจากหินปูทอดยาวลงมาผืนล่าง ความยาวท่วมหัวนักธรณีวิทยาเชื่อกันว่า ภูเขาหินปูน อำเภอเนินมะปราง อายุกว่า 300 ล้านปี และพื้นที่ส่วนใหญ่เคยเป็นทะเลมาก่อน ทำให้ภายในถ้ำมีทั้งหินงอก หินย้อยสีขาว และดำ อีกทั้งมีลำห้วยในถ้ำ ยังพบปลาตาเดียวพันธุ์หายากและมี”ปู”ปรากฏอยู่ทุกวันนี้
ระยะทางประมาณ500 เมตร หลังเดินทางประมาณ 40 นาที พบห้องถัดไปอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องมุดลอดซอกหินลงไปสภาพอากาศลมเย็นพัดผ่านต่อเนื่อง พอมีคราบน้ำหรือร่องรอยน้ำท่วมให้เห็นกล่าวคือ หากเข้าถ้ำในฤดูน้ำหลากจะต้องมุดใต้น้ำเพื่อหาทางออกแน่นอน
ห้องเหล็กไหล หรือเมืองเหล็กไหล เนื่องจากมีแร่ลักษณะคราบสีดำเกาะติดบริเวณผนังและก้อนหินเลื่อมดำสนิท ไม่สามารถแกะ หรือหยิบออกมาด้วยมือเปล่า แต่ยังมีการเซาะหินสีดำออกบางจุด ทำให้วันนี้พระสงฆ์และฤษีจึงนั่งสมาธิสวดคาถาปลุกเสกเครื่องรางของขลัง
ปัจจุบันถ้ำแห่งนี้มีสำนักสงฆ์ถ้ำพระไทรงามอยู่หน้าปากถ้ำเป็นผู้สร้างทางขึ้นเข้าถ้ำเพื่ออำนวยสะดวกคนทั่วไปโดยไม่มีงบประมาณรัฐ พระสนมรติโก(หลวงตาหลอด) ผู้ดูแลสำนักสงฆ์ถ้ำพระไทรงามหมู่ที่ 8 ตำบลเนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง กล่าวว่า ถ้ำพระไทรงามเสมือน”เมืองลับแล”ลงไปพบว่าเป็น”วัง”มีน้ำตลอดคาดว่าน้ำไหลจากต.บ้านมุงมาเป็นได้ในถ้ำเป็นห้องโถงคนหรือพระอาศัยอยู่ได้อาตมาได้ซื้อปูนและเหล็กทำทางขึ้นบริเวณหน้าถ้าไปหลายหมื่นบาทแล้วทั้งๆที่ไม่ต้องทำก็ได้แต่กลัวนักท่องเที่ยวพลัดตก
ขอวิงวอนว่า หากเข้าไปชมในถ้ำเมืองเหล็กไหลสามารถถ่ายรูปได้ แต่อย่าแกะหินดำหรือเหล็กไหลติดมือเป็นที่ระลึก หากต้องการของขลังติดตัวสามารถร่วมทำบุญบริจากตามกำลังศรัทธา โดยมีพระเนื้อดิน”พระนางพญา”เป็นของดีเมืองพิษณุโลกพร้อมพระเนื้อดิน อาทิขุนแผน พระลีลา พระหูยาน พระนาคปก พระสมเด็จฯลฯไว้พกพาติดตัวแทน
อนึ่ง อำเภอเนินมะปรางห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก 85 กิโลเมตร เดิมเป็นป่าดงดิบติดต่อกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีต้นไม้และสัตว์ป่านายพรานมักเข้ามาล่าสัตว์และหาของป่า ต่อมามีผู้อพยพจากทั่วสารทิศมาอาศัยพักแรมชั่วคราวกระทั่งปักหลักตั้งถิ่นฐานสร้างเป็นอำเภอเนินมะปราง ภูมิประเทศเป็นผืนราบสลับถ้ำหินปูนร้อยละ 45 บ้างเคยกล่าวไว้ว่าเป็น“กุ้ยหลินเมืองไทย“
เนื่องจากมีถ้ำหินปูนจำนวนมากอาทิ น้ำดาว น้ำเดือน ถ้ำพระวังแดง ที่มีความยาวกว่า 12 กิโลเมตร ถ้ำนเรศวร ซึ่งเป็นถ้ำแห้งอยู่ที่ผาท่าพล ส่วนถ้ำน้ำดั้นถือว่าสวยอยู่ที่ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง และถ้ำเงินล้าน หากใครได้ไปเยี่ยมเยือน นับว่าโชคดีอยู่ในพื้นที่บ้านดงงูภูเขาที่ตั้งตระหง่านตรงข้ามกับ”ถ้ำพระไทรงาม”ซึ่งมีตำนานลี้ลับเหมือน”เมืองลับแล”เนื่องจากมีคนพัดหลงถ้ำแห่งนี้มาแล้ว
สอ สมอแข/รายงาน