เกษตรกร ผู้ปลูกอะโวคาโด ในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผวาหนัก เนื่องจาก ช่วงนี้พบ แมงอีนูน หรือจีนูน เข้ากัดกินยอดอ่อนของอะโวคาโด และผลอะโวคาโด ทำให้เสียหายมาก

นายสมยศ ดีบาง อายุ39ปี อยู่บ้านเลขที่101 หมู่ที่ 3 บ้านรวมไทยพัฒนา 7 ตำบลรวมไทยพัฒนาอำเภอพบพระ จังหวัดตาก กล่าวว่า ตนเอง ได้ปลูก อะโวคาโด จำนวน 15 ไร่ ช่วงนี้พบว่า มีแมงอีนูน หรือแมงจินูน เข้ามากัดกิน ยอดอ่อนของอะโวคาโด เสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ กัดกินลูกอ่อน ของอะโวคาโด ทำให้ผิวอะโวคาโดเสียหายตนเอง ปลูกอะโวคาโดโดยไม่ใช้สารเคมีอยู่แล้ว จึงต้องจับแม่งอีนูน เป็นการกำจัดโดยวิธีธรรมชาติ มีชาวบ้านและพ่อค้า มารับซื้อแมงอีนูน ในราคา กิโลละกรัมละ 100 บาท โดยวันแรกสามารถจับแมงอีนูน ขายได้ จำนวน 10 กิโลกรัม ถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส


นายสมยศ กล่าวอีกต่อไปว่า แมงอีนูน ทำอาหารได้หลายอย่าง เป็นที่นิยม มีคนสั่งซื้อ เป็นจำนวนมาก การจับแมงอีนูนทุกครั้ง ต้องจับในช่วงตะวันลับฟ้า หรือช่วงกำลังจะมืด แมงอีนูนจะออกมากัดกินยอด อะโวคาโด ทำให้สามารถ จับเอามาขายได้ โดยอุปกรณ์ที่ใช้จับแมงจีนูนก็ไม่ซับซ้อนอะไร ประกอบด้วย ภาชนะใส่น้ำ ไฟส่องสว่าง เสื่อ หรือผ้ายางเพื่อเอาไว้รอง แมงอีนูน จะออกมากัดกินยอดอ่อนของอะโวคาโดในช่วงหัวค่ำ เมื่อส่องไฟไปที่ต้นไม้ไฟจะสะท้อนปีกสีแดงออกน้ำตาล เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วก็นำ ไฟทุกดวงให้ส่องลงมาโดยนำภาชนะใส่น้ำมาเตรียมไว้ จากนั้นก็เขย่ากิ่งเบาๆ แมงอีนูนก็จะตกลงสู่ถังน้ำ ตามธรรมชาติของแมลงที่จะบินเข้าหาแสงสว่าง ไฟที่ส่องลงไปจะล่อแมงอีนูนที่กำลังบิน

ภาพ-ข่าว/ไพฑูรย์ สุขแว่น