พิษณุโลก รองอธิบดียันชาวสวนมะม่วง “น้ำดอกไม้” กก.ละ 18-20 บาท

197

พิษณุโลก รองอธิบดียันชาวสวนมะม่วง “น้ำดอกไม้” กก.ละ 18-20 บาท

วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก และนายมนัส เสียงก้อง เกษตรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตสินค้ามะม่วงและการรับซื้อจากแหล่งผลิต ณ กลุ่มผู้ปลูกมะม่วงแปลงใหญ่บ้านลำภาศ ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ที่ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ห้างค้าส่งค้าปลีก มาช่วยกันวางแผนและช่วยซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจากเกษตรกร

ตามโครงการอมก๋อยโมเดล จากเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในเขตพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร และในวันนี้เป็นช่วง 2 วันสุดท้ายของฤดูเก็บผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคุณภาพ โดยในวันนี้มีบริษัทมารับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพิ่มเติมจาก เกษตรบ้านลำภาศ ในท้ายฤดูกาล มะม่วงคละเกรดด้วยราคากิโลกรัมละ 20 บาท จำนวน 6 ตัน ซึ่งทางบริษัทที่มารับซื้อให้เหตุผลถึงราคาที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจาก ปัจจุบันมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคุณภาพ เริ่มหาได้ยาก และยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศอยู่

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรณีที่มีการรายงานข่าว มะม่วงราคาตกต่ำในพื้นที่ อำเภอวังทองว่า ไม่พบว่ามีมะม่วงราคากิโลกรัมละ 1 บาท โดยระบุว่าเป็นมะม่วงโชคอนันต์ ซึ่งปัจจุบันหมดฤดูไปแล้ว ผลผลิตที่เหลืออยู่จะเป็นผลิตตกเกรด ตกพื้น ไม่สามารถนำมาบริโภคโดยตรงได้ แต่จะนำไปแปรรูปเป็นมะม่วงกวน ซึ่งผู้ผลิตจะสามารถทยอยซื้อได้เพราะเป็นมะม่วงมัน ไม่ใช่มะม่วงกินสุก

“จากการตรวจสอบล่าสุด ทราบว่าที่นั้นมีผลผลิตน้อยกว่า 50 ตัน มีผู้ทราบข่าวและสนใจติดต่อเข้าไปซื้อมะม่วง แต่ไม่มีของ กรมการค้าภายใน มีความเป็นห่วงได้ส่งผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้ในราคากิโลกรัมละ 18 บาท แต่ปรากฏว่าไม่มีของเช่นเดียวกัน จึงอยากให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ กรณีข่าวมะม่วงมันโชคอนันต์กิโลกรัมละ 1 บาท ที่กล่าวอ้างนั้น ไม่มีผลผลิตแล้ว และไม่มีผลผลิตจริง เป็นสินค้าที่ตกเกรดไม่สามารถบริโภคได้ต้องนำไปกวน ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้ อำเภอวังทอง

จากการลงพื้นที่สำรวจก็พบว่ายังมีการขายมะม่วงได้ในราคากิโลกรัมละ 18-20 บาทอยู่ ส่วนมะม่วงตกเกรดกิโลกรัมละ 10 บาท เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า แต่ละกลุ่ม หากมีการวางแผนที่ดี จะมีมะม่วงขายได้ในราคา 18-20 บาทถึงช่วงปลายฤดู แต่กลุ่มที่ไม่ได้วางแผนก็จะเหลือมะม่วงตกเกรดขายได้ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งถือว่ายังได้ราคาดีกว่าปีที่ผ่านมาคือกิโลกรัมละ 3-5 บาท

กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน ยืนยันดูแลเกษตรทุกคนทุกกลุ่มทั้งที่ ขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน แต่ผลไม้เป็นผลผลิตที่เสียหายง่าย บางช่วงหากมีสินค้าออกมาล้นตลาด หรือ สุก แก่ ก็อาจจะเข้าไปช่วยเหลือได้ไม่ทัน และขอยืนยันว่า เกษตรกรจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร ยังคงจำหน่ายมะม่วงคุณภาพดี ไม่มีการขายมะม่วง ไม่มีคุณภาพ กิโลกรัมละ 1 บาท 2 บาทอย่างแน่นอน”นายกรนิจ กล่าว